ขนาดประตู | วิธีวัดขนาดด้วยตัวเองแบบง่าย ๆ ให้พอดีกับพื้นที่

15 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ขนาดประตู วิธีวัดขนาดด้วยตัวเองแบบง่าย ๆ ให้พอดีกับพื้นที่

S.J.Sourcing สรุปให้

  • ขนาดประตูมาตรฐานในไทยมี 3 รูปแบบหลัก คือ 70x200 ซม. สำหรับห้องน้ำ, 80x200 ซม. สำหรับห้องนอน, และ 90x200 ซม. หรือ 100x200 ซม. สำหรับประตูหน้าบ้าน
  • วิธีวัดขนาดประตูอย่างถูกวิธี คือวัดเฉพาะบานประตู ไม่รวมวงกบ โดยวัดความกว้างจากขอบซ้ายไปขอบขวา และวัดความสูงจากขอบบนลงขอบล่าง
  • บานประตูเปิดจะมีวงกบพร้อมบังใบลดช่องว่างระหว่างบานประตู กับวงกบ ช่วยป้องกันฝุ่น เสียง แสง และแมลงได้
  • วิธีเลือกขนาดประตูควรพิจารณาจากพื้นที่ใช้สอย รูปแบบการใช้งาน และความสะดวกในการเข้า-ออก
  • ข้อบังคับอาคารระบุว่าประตูฉุกเฉินต้องกว้างไม่ต่ำกว่า 90 ซม. และต้องเปิดออกสู่ภายนอกทุกกรณี

ประตู ส่วนจำเป็นของบ้านที่ช่วยรักษาความเป็นส่วนตัวและสร้างความปลอดภัยให้ผู้อาศัย การเลือก ขนาดประตู ให้ถูกต้องจะส่งผลต่อรูปลักษณ์ การใช้งาน และความลื่นไหลในชีวิตประจำวัน บทความนี้ S.J.Sourcing จะแนะนำเรื่องขนาดประตูมาตรฐานในไทย วิธีวัดขนาดประตูแบบง่าย ๆ แนวทางการเลือกขนาดบานประตูให้เข้ากับพื้นที่ติดตั้ง รวมถึงข้อกำหนดอาคารที่เกี่ยวข้องค่ะ

เลือกอ่านตามหัวข้อ

 

ขนาดประตู มีกี่ขนาด ?

ในตลาดวัสดุก่อสร้างมีประตูขนาดมาตรฐานที่ผู้ผลิตกำหนดไว้แล้ว ซึ่งได้รับการยอมรับในวงการก่อสร้างและตกแต่งบ้าน เราสามารถแบ่งประเภทขนาดประตูตามลักษณะการใช้งานได้หลายแบบ

ประเภทของขนาดประตูตามลักษณะการใช้งาน

  • ประตูห้องน้ำ ส่วนมากมีขนาดเล็กกว่าประตูทั่วไป ช่วยให้มีพื้นที่ใช้สอยมากขึ้น
  • ประตูห้องนอนและห้องทั่วไป มีความกว้างพอเหมาะสำหรับการใช้งานภายในบ้าน
  • ประตูหน้าบ้าน มีความกว้างมากกว่าเพื่อรูปลักษณ์ที่น่าประทับใจและสะดวกเวลาขนย้ายสิ่งของเข้า-ออก
  • ประตูบานคู่ เป็นประตูสองบานติดตั้งคู่ ส่วนใหญ่ใช้เป็นประตูหน้าบ้านหรือทางเข้าหลัก
  • ประตูบานเลื่อน มีขนาดแตกต่างตามพื้นที่ติดตั้ง สามารถปรับความกว้างได้ตามต้องการ
  • ประตูบานสวิง เปิดได้สองทิศทาง ส่วนใหญ่พบในพื้นที่สาธารณะหรือร้านอาหาร

หน่วยวัดขนาดประตูที่ใช้โดยทั่วไป

ในไทยเรานิยมใช้หน่วยเซนติเมตร (ซม.) วัดขนาดประตู โดยระบุเป็น กว้าง x สูง เช่น 80x200 ซม. หมายถึงประตูกว้าง 80 เซนติเมตรและสูง 200 เซนติเมตรค่ะ

ที่ควรรู้คือ ขนาดประตูที่บอกเป็นขนาดของตัวบานประตูเท่านั้น ไม่รวมวงกบหรือกรอบ หลังติดตั้งขนาดจริงอาจลดลงประมาณด้านละ 0.5-1 เซนติเมตร เพราะช่างต้องปรับแต่งขอบประตูให้พอเหมาะกับวงกบ

 

ขนาดประตูบ้านมาตรฐานสำหรับจุดติดตั้งต่าง ๆ

การเลือกขนาดประตูให้พอเหมาะกับพื้นที่ติดตั้ง มีความสำคัญต่อประสิทธิภาพการใช้งานและความงามโดยรวม ขนาดประตูมาตรฐานสำหรับจุดติดตั้งต่าง ๆ ในบ้านมีดังนี้

ขนาดประตูหน้าบ้าน

ประตูหน้าบ้านเป็นด่านแรกที่ผู้มาเยือนสัมผัส และเป็นจุดสร้างความประทับใจแรกพบ ขนาดมาตรฐานของประตูหน้าบ้านมีดังนี้

  • ขนาด 90 x 200 ซม. สำหรับบ้านทั่วไป
  • ขนาด 100 x 200 ซม. สำหรับบ้านหลังใหญ่หรือต้องการความโอ่อ่า
  • ประตูบานคู่ อาจมีขนาด 140 x 200 ซม. หรือ 160 x 200 ซม. (กว้าง 70 หรือ 80 ซม. สองบาน)

ประตูหน้าบ้านควรมีขนาดกว้างพอสำหรับการขนย้ายเฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่เข้า-ออกได้สะดวก และช่วยเพิ่มความสง่างามให้บ้าน

ขนาดประตูห้องนอน

ห้องนอนเป็นพื้นที่ส่วนตัวที่ต้องการความเงียบสงบ ขนาดประตูห้องนอนมาตรฐานมีดังนี้

  • ขนาด 80 x 200 ซม. ขนาดทั่วไปสำหรับห้องนอน
  • ขนาด 90 x 200 ซม. สำหรับห้องนอนหลักหรือห้องที่ต้องการพื้นที่เข้า-ออกกว้างขวาง

ประตูห้องนอนควรมีขนาดพอเหมาะกับการเข้า-ออก และเพียงพอต่อการนำเฟอร์นิเจอร์ เช่น เตียง ตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้ง เข้าไปในห้องได้อย่างสะดวก

ขนาดประตูห้องน้ำ

ห้องน้ำมักมีพื้นที่จำกัด ประตูห้องน้ำจึงมีขนาดเล็กกว่าประตูห้องอื่น ๆ

  • ขนาด 70 x 200 ซม. ขนาดมาตรฐานสำหรับห้องน้ำทั่วไป
  • ขนาด 70 x 180 ซม. สำหรับห้องน้ำขนาดเล็ก

ประตูห้องน้ำนอกจากขนาดพอเหมาะแล้ว ควรเลือกวัสดุที่ทนความชื้นด้วย เช่น ประตู UPVC หรือวัสดุที่ต้านทานความชื้นและเชื้อรา

ขนาดประตูสำหรับห้องใช้งานเฉพาะส่วนในบ้าน

นอกจากห้องหลัก ๆ ก็ยังมีห้องอื่น ๆ ในบ้านที่มีการใช้งานเฉพาะ ซึ่งมีขนาดประตูมาตรฐานดังนี้

  • ห้องครัว ขนาด 80 x 200 ซม. เหมาะสำหรับขนย้ายอุปกรณ์ครัวและของใช้
  • ห้องเก็บของ ขนาด 70-80 x 200 ซม. พิจารณาจากขนาดสิ่งของที่ต้องเข้า-ออก
  • ห้องทำงาน ขนาด 80 x 200 ซม. ขนาดมาตรฐานสำหรับห้องทั่วไป
  • ห้องนั่งเล่น ขนาด 80-90 x 200 ซม. เพื่อความคล่องตัวในการเข้า-ออกของหลายคนพร้อมกัน

ขนาดประตูสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามพื้นที่ และรูปแบบการใช้งานจริงค่ะ

 

เทคนิคการเลือกขนาดบานประตูให้เหมาะสม

การเลือกขนาดบานประตูให้พอเหมาะไม่ได้หมายถึงแค่การเลือกตามขนาดมาตรฐาน แต่ต้องพิจารณาปัจจัยอื่น ๆ ร่วมด้วย ดังนี้

  1. พิจารณาตามวัตถุประสงค์การใช้งาน

    การเลือกขนาดประตูควรพิจารณาจากวัตถุประสงค์การใช้งานเป็นหลัก

    • ทางเข้าหลัก ควรมีขนาดกว้าง (90-100 ซม.) เพื่อความสะดวกในการขนย้ายเฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่
    • ห้องที่มีผู้ใช้งานจำนวนมาก เช่น ห้องนั่งเล่น ควรมีขนาดกว้างพอสมควร (80-90 ซม.)
    • ห้องส่วนตัว เช่น ห้องนอน ห้องทำงาน ควรมีขนาดพอเหมาะ (80 ซม.)
    • ห้องที่มีพื้นที่จำกัด เช่น ห้องน้ำ ห้องเก็บของ ควรมีขนาดเล็กลง (70 ซม.)

  2. พิจารณาขนาดพื้นที่ติดตั้ง

    ขนาดพื้นที่ที่จะติดตั้งประตูเป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกขนาดประตู

    • ห้องที่มีพื้นที่จำกัด อาจพิจารณาใช้ประตูบานเลื่อนเพื่อเพิ่มพื้นที่ในการเปิด-ปิด
    • ตรวจสอบว่ามีพื้นที่เพียงพอสำหรับการเปิดประตูโดยไม่ชนเฟอร์นิเจอร์หรือสิ่งของอื่น ๆ
    • พิจารณาทิศทางการเปิดประตูให้สอดคล้องกับการใช้งานและการเคลื่อนไหวภายในห้อง

  3. พิจารณาความสะดวกในการเข้า-ออก

    • สำหรับผู้สูงอายุหรือผู้พิการ ควรเลือกประตูที่มีความกว้างพอ (อย่างน้อย 90 ซม.) เพื่อให้รถเข็นผ่านได้
    • พิจารณาขนาดของสิ่งของที่ต้องเคลื่อนย้ายเข้า-ออกบ่อย ๆ เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า เฟอร์นิเจอร์
    • พิจารณาความสูงของประตูให้พอเหมาะกับผู้ใช้งาน โดยความสูงมาตรฐาน 200 ซม. พอเพียงสำหรับคนไทยทั่วไป

  4. สมดุลระหว่างความงามและฟังก์ชันการใช้งาน

    นอกจากประโยชน์ใช้สอยแล้ว ความงามก็มีความสำคัญ

    • ประตูขนาดใหญ่สร้างความรู้สึกโอ่อ่า สง่างาม เหมาะกับพื้นที่ส่วนกลางหรือห้องรับแขก
    • ขนาดประตูควรมีสมดุลกับขนาดของห้องและสัดส่วนของบ้านโดยรวม
    • สำหรับบ้านสไตล์โมเดิร์น อาจพิจารณาประตูที่มีความสูงมากกว่ามาตรฐาน เช่น 220 หรือ 240 ซม. เพื่อสร้างมิติให้กับพื้นที่

 

วิธีการวัดพื้นที่สำหรับติดตั้งประตู

การวัดพื้นที่สำหรับติดตั้งประตูอย่างถูกต้องจะช่วยให้เลือกขนาดประตูได้พอเหมาะ มีขั้นตอนดังนี้ค่ะ

อุปกรณ์ที่จำเป็นในการวัด

ก่อนเริ่มวัดขนาดประตู ควรเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม

  • สายวัด หรือตลับเมตร
  • ดินสอหรือปากกา
  • กระดาษสำหรับจดบันทึก
  • บันไดหรือเก้าอี้ (กรณีต้องวัดความสูง)
  • ระดับน้ำ (สำหรับตรวจสอบความเรียบของพื้นที่)

ขั้นตอนการวัดขนาดประตูที่ถูกต้อง

1. วัดความกว้าง

  • วัดจากขอบด้านซ้ายไปยังขอบด้านขวาของช่องเปิด
  • วัดที่ 3 จุด คือ ด้านบน ตรงกลาง และด้านล่างของช่องเปิด
  • บันทึกค่าที่แคบที่สุดเป็นความกว้างของช่องเปิด

2. วัดความสูง

  • วัดจากพื้นถึงด้านบนของช่องเปิด
  • วัดที่ 3 จุด คือ ด้านซ้าย ตรงกลาง และด้านขวาของช่องเปิด
  • บันทึกค่าที่สั้นที่สุดเป็นความสูงของช่องเปิด

3. วัดความหนาของผนัง

  • วัดความหนาของผนังที่จะติดตั้งประตู
  • ข้อมูลนี้จำเป็นสำหรับการเลือกขนาดวงกบที่พอเหมาะ

4. ตรวจสอบความได้ฉาก

  • ใช้ระดับน้ำตรวจสอบว่าช่องเปิดได้ฉากหรือไม่
  • หากไม่ได้ฉาก อาจต้องปรับแต่งช่องเปิดหรือเลือกประตูที่สามารถปรับแต่งได้

ข้อควรระวังในการวัด

  • วัดทั้งหมดด้วยหน่วยเดียวกัน เช่น เซนติเมตร ไม่ควรใช้หลายหน่วยปะปนกัน
  • วัดหลาย ๆ ครั้งเพื่อความแม่นยำ
  • พิจารณาการตกแต่งพื้น เช่น การปูกระเบื้อง พรม หรือลามิเนต ซึ่งอาจมีผลต่อความสูงของช่องเปิด
  • ไม่ควรวัดรวมส่วนประกอบเพิ่มเติม เช่น ขอบกันลม หรืออุปกรณ์เสริมอื่น ๆ

การคำนวณขนาดประตูจากช่องเปิด

เมื่อได้ขนาดช่องเปิดแล้ว ให้คำนวณขนาดประตูที่พอเหมาะดังนี้

  • ความกว้างของบานประตู = ความกว้างของช่องเปิด ระยะห่างสำหรับการติดตั้ง (ประมาณ 5-10 มม.)
  • ความสูงของบานประตู = ความสูงของช่องเปิด ระยะห่างจากพื้นถึงขอบล่างของประตู ระยะห่างด้านบน (ประมาณ 5-10 มม.)

โดยทั่วไป ควรเผื่อระยะห่างประมาณ 2-3 มม. รอบบานประตู เพื่อให้บานประตูเปิด-ปิดได้สะดวกไม่ติดขัดค่ะ

 

ขนาดประตู ข้อกำหนดทางกฎหมายหรืออาคาร

นอกจากการเลือกขนาดประตูตามความพอเหมาะของการใช้งานแล้ว ก็ยังมีข้อกำหนดทางกฎหมายและมาตรฐานอาคารที่เกี่ยวข้องกับขนาดประตูด้วยค่ะ

ข้อกำหนดขนาดประตูตามกฎหมายอาคาร

กฎหมายควบคุมอาคารในไทยได้กำหนดมาตรฐานขั้นต่ำสำหรับขนาดประตูไว้ดังนี้

  • ประตูทางเข้าหลักของอาคาร ต้องมีความกว้างสุทธิไม่น้อยกว่า 90 ซม.
  • ประตูหนีไฟหรือทางออกฉุกเฉิน ต้องมีความกว้างไม่น้อยกว่า 90 ซม. และต้องเปิดออกสู่ภายนอกเสมอ
  • ประตูห้องน้ำสำหรับผู้พิการ ต้องมีความกว้างสุทธิไม่น้อยกว่า 90 ซม. เพื่อให้รถเข็นสามารถผ่านได้
  • ความสูงของประตู โดยส่วนมากไม่ควรต่ำกว่า 200 ซม. เพื่อความสะดวกในการใช้งาน

มาตรฐานความปลอดภัยที่เกี่ยวข้องกับขนาดประตู

นอกจากข้อกำหนดทางกฎหมาย ก็ยังมีมาตรฐานความปลอดภัยที่เกี่ยวข้องกับขนาดประตูดังนี้

  • ประตูหนีไฟ ต้องเปิดได้ง่าย ไม่มีกลอนหรืออุปกรณ์ล็อคที่ซับซ้อน และต้องเปิดออกสู่ภายนอกเท่านั้น
  • ประตูสำหรับผู้พิการ ควรมีพื้นที่ว่างด้านหน้าและด้านหลังประตูอย่างน้อย 150 x 150 ซม. เพื่อให้รถเข็นสามารถหมุนได้
  • ประตูกระจก ต้องมีการทำเครื่องหมายหรือลวดลายบนกระจกที่ระดับสายตา เพื่อป้องกันการเดินชน

ข้อแนะนำสำหรับอาคารสาธารณะ

สำหรับอาคารสาธารณะ มีข้อแนะนำเพิ่มเติมดังนี้

  • อาคารที่มีผู้ใช้งานจำนวนมาก ประตูควรมีความกว้างเพียงพอสำหรับการเคลื่อนย้ายผู้คนได้อย่างรวดเร็วในกรณีฉุกเฉิน
  • โรงพยาบาลหรือสถานพยาบาล ประตูห้องผู้ป่วยควรมีความกว้างอย่างน้อย 90-100 ซม. เพื่อให้สามารถเข็นเตียงหรืออุปกรณ์ทางการแพทย์ผ่านได้
  • โรงเรียนหรือสถานศึกษา ประตูห้องเรียนควรมีความกว้างเพียงพอสำหรับการอพยพนักเรียนได้อย่างรวดเร็ว

 

สรุป

การเลือก ขนาดประตู ที่พอเหมาะส่งผลต่อทั้งรูปลักษณ์ ประโยชน์ใช้สอย และความปลอดภัยของบ้าน ขนาดประตูมาตรฐานในไทยมี 3 ขนาดหลัก ได้แก่ 70x200 ซม. สำหรับห้องน้ำ, 80x200 ซม. สำหรับห้องนอนและห้องทั่วไป, และ 90x200 ซม. หรือ 100x200 ซม. สำหรับประตูหน้าบ้าน

การวัดขนาดประตูที่ถูกต้องจะช่วยให้เลือกประตูได้พอเหมาะ โดยต้องวัดเฉพาะตัวบานประตู ไม่รวมวงกบ วัดความกว้างจากขอบซ้ายถึงขอบขวา และความสูงจากขอบบนถึงขอบล่างค่ะ

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้