ก่อนติดตั้ง ประตู WPC คืออะไร ? เกี่ยวกับโครงสร้างและวัสดุ

12 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ประตู WPC คืออะไร เกี่ยวกับโครงสร้างและวัสดุ

S.J.Sourcing สรุปให้

  • ประตู WPC (Wood Plastic Composite) คือ ประตูที่ผลิตจากวัสดุผสมระหว่างผงไม้หรือเส้นใยไม้กับพลาสติก ผ่านกระบวนการรีดขึ้นรูปเป็นชิ้นเดียว
  • มีความแข็งแรงทนทาน กันน้ำ กันปลวก ทนต่อแสง UV และความชื้นสูง เหมาะสำหรับใช้ทั้งภายในและภายนอกบ้าน
  • อายุการใช้งานนานกว่า 10 ปี ดูแลรักษาง่าย ไม่ต้องทาสีบ่อย ทำความสะอาดได้ด้วยน้ำและผงซักฟอกอ่อน ๆ
  • ราคาเริ่มต้นอาจสูงกว่าประตูไม้ทั่วไป แต่ช่วยลดค่าใช้จ่ายในระยะยาวเพราะทนทานและต้องการการบำรุงรักษาน้อย
  • เหมาะสำหรับทุกพื้นที่ในบ้าน โดยเฉพาะห้องน้ำ ห้องครัว หรือประตูภายนอกที่ต้องเผชิญกับสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง

การเลือกวัสดุสำหรับประตูบ้าน ความทนทานและคุณภาพเป็นสิ่งที่ต้องพิจารณาควบคู่ไปกับความสวย ประตู WPC หรือ Wood Plastic Composite กำลังได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เพราะรวมข้อดีของทั้งไม้และพลาสติกไว้ด้วยกัน บทความนี้ S.J.Sourcing จะพาไปรู้จักกับประตู WPC ทั้งในแง่ของวัสดุ โครงสร้าง คุณสมบัติพิเศษ ข้อดีข้อเสีย รวมถึงวิธีการเลือกซื้อและการดูแลรักษาให้ประตู WPC มีอายุการใช้งานนานค่ะ

เลือกอ่านตามหัวข้อ


ประตู WPC คืออะไร

ประตู WPC หรือ Wood Plastic Composite คือ วัสดุคอมโพสิทชนิดพอลิเมอร์คอมโพสิท ที่ผลิตจากการนำส่วนผสมของผงไม้ ขี้เลื่อยไม้ หรือเส้นใยไม้ มาผสมกับพอลิเมอร์พลาสติก (เช่น PVC) ผ่านกระบวนการผลิตแบบรีดขึ้นรูปเป็นชิ้นเดียว ทำให้ได้ไม้สังเคราะห์ที่มีลักษณะและรูปแบบการใช้งานได้เหมือนไม้จริง

ประตู WPC เป็นผลิตภัณฑ์ที่รวมคุณสมบัติที่ดีของทั้งไม้และพลาสติกเข้าด้วยกัน โดยไม้ช่วยให้มีผิวสัมผัสที่ดูเป็นธรรมชาติ ในขณะที่พลาสติกช่วยเพิ่มความแข็งแรงทนทาน กันน้ำ และป้องกันปลวก

โครงสร้างของประตู WPC ประกอบด้วย

  • ส่วนผสมของผงไม้หรือเส้นใยไม้ผสมกับพลาสติก
  • ภายในโครงสร้างเสริมด้วย PS Foam ที่ช่วยดูดซับเสียงและความร้อนจากภายนอก
  • ผลิตผ่านกระบวนการรีดขึ้นรูปเป็นชิ้นเดียว ทำให้ไม่มีรอยต่อที่จะทำให้เกิดการรั่วซึมของน้ำหรือความชื้น

นวัตกรรมนี้เกิดจากวัตถุประสงค์ที่ต้องการใช้ทรัพยากรธรรมชาติไม้และพลาสติกให้เกิดประโยชน์สูงสุด ผ่านกระบวนการวิจัยพัฒนาเพื่อให้ได้มาซึ่งความงามและความทนทาน ทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการประตูที่มีความงามเหมือนไม้แท้ แต่มีความคงทนและดูแลรักษาง่ายกว่า


คุณสมบัติเฉพาะตัวของประตู WPC

ประตู WPC มีคุณสมบัติเฉพาะที่แตกต่างจากประตูไม้ธรรมชาติหรือประตูวัสดุอื่น ๆ ดังนี้

  • ทนน้ำและความชื้น มีความคงทนต่อความชื้นสูงและสามารถแช่น้ำได้เป็นระยะเวลานาน โดยที่บานประตูไม่บวมหรือบิดเบี้ยวผิดรูป สามารถแช่น้ำได้ 100% เป็นเดือน ๆ จึงเหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีความชื้นสูงหรือพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม
  • ทนปลวกและแมลง ไม่ถูกปลวกหรือแมลงกัดกิน ทำให้ไม่ต้องกังวลกับปัญหาปลวกหรือมอดที่พบในประตูไม้ธรรมชาติ
  • ความแข็งแรงทนทาน มีความแข็งแรงคงทนมากกว่าไม้จริง กันแรงกระแทกได้ดีกว่า ทนต่อการบิดงอ การแตกร้าว และการแตกแยก
  • ทนต่อสภาพอากาศ ทนทานต่อแสง UV และทนทานต่อสภาพภูมิอากาศ ทำให้เหมาะสำหรับประตูภายนอกที่ต้องสัมผัสกับแดดและฝน
  • ไม่ติดไฟง่าย วัสดุ WPC ไม่ติดเชื้อไฟได้ง่าย โดยผ่านการทดสอบสากล จึงเพิ่มความปลอดภัยให้กับบ้าน
  • พื้นผิวเหมือนไม้จริง สามารถผลิตให้มีลักษณะและสัมผัสใกล้เคียงกับไม้ธรรมชาติ สามารถผลิตออกมาในหลากหลายสีและลวดลายที่เลียนแบบไม้ธรรมชาติได้คล้ายคลึง ทำให้สามารถเข้ากับการออกแบบตกแต่งได้หลายรูปแบบ
  • น้ำหนัก มีน้ำหนักมากกว่าประตูไม้ธรรมชาติเล็กน้อย แต่ให้ความแข็งแรงมากกว่า
  • อายุการใช้งาน มีอายุการใช้งานที่นานได้มากกว่า 10 ปีขึ้นไป นานกว่าประตูไม้ธรรมชาติหรือประตูวัสดุอื่น ๆ ในราคาใกล้เคียงกัน
  • เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม WPC ทำมาจากวัสดุรีไซเคิล เช่น ขี้เลื่อยและพลาสติกที่ใช้แล้ว ซึ่งช่วยลดปริมาณขยะและใช้ทรัพยากรน้อยลง


ข้อดีของการเลือกใช้ประตู WPC

  • ความทนทานต่อสภาพแวดล้อม ประตู WPC มีความทนทานต่อความชื้นดีเยี่ยม เหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่ชื้นหรือพื้นที่เสี่ยงต่อน้ำ เช่น ห้องน้ำและห้องครัว รวมถึงทนแดด ทนฝน ไม่บวมน้ำ ไม่ผุกร่อนง่าย
  • ปลอดภัยจากปลวกและแมลง ทนทานต่อปลวกและสัตว์รบกวนอื่น ๆ ที่สร้างความเสียหายให้กับประตูไม้ ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องการกัดกินของปลวกและแมลง
  • การดูแลรักษาง่าย ต้องการการบำรุงรักษาน้อย ไม่จำเป็นต้องทาสี ย้อมสี หรือปิดผนึก และสามารถทำความสะอาดได้ง่ายด้วยน้ำและผงซักฟอกอ่อน ๆ ไม่ต้องการการบำรุงรักษาสูง เช่น การทาสี การเคลือบ หรือการป้องกันจากสารเคมี แค่ทำความสะอาดเป็นประจำก็พอ
  • ความงามคล้ายไม้จริง มีลักษณะที่คล้ายคลึงกับไม้ธรรมชาติ ให้ความรู้สึกอบอุ่นและความงามแบบคลาสสิค แต่มีความทนทานมากกว่า
  • ช่วยลดค่าใช้จ่ายในระยะยาว แม้ว่าราคาเริ่มต้นของประตู WPC สูงกว่าประตูไม้แบบดั้งเดิม แต่ก็ช่วยลดค่าใช้จ่ายในระยะยาวเพราะความทนทานและความต้องการในการบำรุงรักษาต่ำ
  • การติดตั้งง่าย WPC สามารถตัด, สว่าน, และติดตั้งได้ง่ายเหมือนกับไม้ธรรมชาติ ทำให้สะดวกสำหรับการติดตั้ง และสามารถปรับแต่งได้ตามต้องการ
  • ความปลอดภัย ไม่ติดเชื้อไฟได้ง่าย โดยผ่านการทดสอบสากล จึงช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับบ้าน
  • เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทำจากวัสดุรีไซเคิล ทำให้เป็นทางเลือกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเมื่อเทียบกับประตูไม้แบบดั้งเดิม
  • หลากหลายดีไซน์ มีให้เลือกหลายรูปแบบ ทั้งลวดลาย สี และขนาด สามารถเลือกให้เข้ากับสไตล์การตกแต่งบ้านได้


ข้อเสียบางอย่างของประตู WPC

  • ราคาเริ่มต้นสูงกว่า ราคาเริ่มต้นของประตู WPC สูงกว่าประตูไม้ทั่วไปหรือประตูวัสดุอื่น ๆ แม้ว่าจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในระยะยาวก็ตาม
  • น้ำหนักมาก ประตู WPC หนักกว่าประตูไม้ ทำให้การติดตั้งยากขึ้นและต้องเสริมแรงเพิ่มเติม อาจไม่เหมาะกับบางพื้นที่ที่ต้องการความเบา
  • การขยายและหดตัว ไวต่อความผันผวนของอุณหภูมิที่รุนแรง ซึ่งทำให้ประตูขยายและหดตัวได้ ซึ่งส่งผลให้เกิดการบิดเบี้ยวหรือบิดเบี้ยวเมื่อเวลาผ่านไป
  • ขาดความเป็นเอกลักษณ์ของไม้จริง แม้ว่าจะถูกออกแบบให้เหมือนไม้ธรรมชาติ แต่บางคนรู้สึกว่าไม่มีความเป็นเอกลักษณ์ของลายไม้จริง ซึ่งแต่ละชิ้นมีลวดลายไม่เหมือนกัน
  • สีอาจซีดจาง เมื่อใช้งานเป็นเวลานานหรือโดนแสงแดดจัด สีของประตู WPC อาจซีดจางลงได้
  • ไม่สามารถย่อยสลายได้ วัสดุพลาสติกในประตู WPC ไม่สามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ ทำให้เป็นข้อกังวลด้านสิ่งแวดล้อมเมื่อหมดอายุการใช้งาน
  • การซ่อมแซม หากเกิดความเสียหาย การซ่อมแซมประตู WPC ทำได้ยากกว่าประตูไม้ธรรมชาติ ต้องเปลี่ยนทั้งบาน
  • ไม่สามารถปรับเปลี่ยนสีได้ง่าย แม้จะสามารถทาสีได้ แต่การเปลี่ยนสีประตู WPC ทำได้ยากกว่าการเปลี่ยนสีประตูไม้ธรรมชาติค่ะ

การเข้าใจถึงข้อเสียเหล่านี้ ช่วยให้สามารถตัดสินใจได้รอบคอบว่าประตู WPC เหมาะกับความต้องการและการใช้งานของเราหรือไม่ ซึ่งในหลายกรณี ข้อดีของประตู WPC มีน้ำหนักมากกว่าข้อเสียเหล่านี้ โดยเฉพาะสำหรับบ้านในพื้นที่ที่มีความชื้นสูงหรือสภาพอากาศแปรปรวน


การใช้งานประตู WPC ในตำแหน่งต่าง ๆ ของอาคาร

ด้วยคุณสมบัติที่ดีของประตู WPC ทำให้สามารถนำไปใช้ได้หลากหลายตำแหน่งในอาคาร ดังนี้

ประตูห้องน้ำ

เพราะห้องน้ำมีความชื้นสูงและโดนน้ำจนเปียกอยู่เกือบตลอดเวลา ทำให้การเลือกใช้ประตูห้องน้ำควรเป็นประตูที่ทำมาจากวัสดุที่มีความคงทน ประตู WPC จึงเหมาะสำหรับห้องน้ำเพราะ

  • ทนต่อความชื้นสูง ไม่บวมน้ำ
  • ไม่เกิดเชื้อราได้ง่าย
  • ทำความสะอาดง่าย
  • อายุการใช้งานนานแม้ในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูง

ประตูห้องครัว

ห้องครัวเป็นอีกพื้นที่ที่มีความชื้นและไอระเหยจากการทำอาหาร ประตู WPC เหมาะสำหรับการใช้งานในห้องครัวเพราะ

  • ทนต่อความชื้นและไอน้ำ
  • ไม่ดูดซับกลิ่นอาหาร
  • ทำความสะอาดคราบมันได้ง่าย
  • ทนต่อการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิ

ประตูภายนอกอาคาร

ประตูที่ใช้สำหรับการเปิดออกไปยังภายนอกบ้านต้องเลือกซื้อประตูที่มีความทนทานต่อแสงแดด และน้ำกระเซ็นจากฝนตก หรือลมที่พัดเข้ามายังตัวบ้าน ประตู WPC เหมาะสำหรับการใช้งานภายนอกเพราะ

  • ทนต่อแสง UV และสภาพอากาศแปรปรวน
  • ไม่บวมหรือหดตัวมากเมื่อสัมผัสกับความชื้นหรือความร้อน
  • ทนต่อการกัดกร่อนจากสภาพแวดล้อม
  • เหมาะสำหรับประตูที่ต้องการให้มีความแข็งแรงและสามารถกันน้ำหรือความชื้นได้ดีกว่า ควรเลือกประตูที่มีคุณสมบัติป้องกันการกัดกร่อนและระยะเวลาในการใช้งานที่นาน

ประตูห้องนอน

แม้ว่าห้องนอนจะไม่มีปัญหาเรื่องความชื้นสูงเหมือนห้องน้ำหรือห้องครัว แต่ประตู WPC ก็เป็นทางเลือกที่ดีเพราะ

  • ความงามคล้ายไม้ธรรมชาติ
  • คุณสมบัติการดูดซับเสียงที่ดี ช่วยลดเสียงรบกวนจากภายนอก
  • อายุการใช้งานนาน
  • ดูแลรักษาง่าย

ประตูเข้าบ้าน

ประตูเข้าบ้านเป็นด่านแรกที่ต้องเผชิญกับสภาพอากาศภายนอก ประตู WPC จึงเป็นทางเลือกที่เหมาะสมเพราะ

  • ความแข็งแรงทนทาน
  • ทนต่อสภาพอากาศ
  • ประตูที่ติดตั้งในพื้นที่มีความปลอดภัยสูง (เช่น ประตูหน้า) ควรเลือกประตูที่มีคุณสมบัติการป้องกันที่ดี เช่น ระบบล็อกที่ปลอดภัย หรือความทนทานต่อการโจรกรรม
  • สามารถออกแบบให้มีความงามสอดคล้องกับสไตล์บ้าน


วิธีเลือกซื้อประตู WPC ให้เหมาะกับการใช้

การเลือกซื้อประตู WPC ให้เหมาะกับการใช้งานมีหลักการที่ควรพิจารณา ดังนี้

  1. ตำแหน่งการใช้งาน

    การเลือกซื้อประตูควรเริ่มต้นจากคำถามที่ว่า จะซื้อประตูไปใช้ในห้องไหน เพราะประตูสำหรับแต่ละห้องมีความแตกต่างกัน

    • ประตูภายใน เช่น ห้องนอน ห้องนั่งเล่น สามารถเลือกรูปแบบที่เน้นความงามได้
    • ประตูห้องน้ำหรือห้องครัว ควรเลือกประตู WPC ที่มีคุณสมบัติกันน้ำดีเป็นพิเศษ
    • ประตูภายนอก หากเป็นประตูภายนอกควรเลือกประตูที่มีคุณสมบัติป้องกันการกัดกร่อนและระยะเวลาในการใช้งานที่นาน เช่น ประตูที่มีขนาดใหญ่หรือมีการเสริมแรงในโครงสร้าง

  2. ขนาดมาตรฐาน

    ประตู WPC ส่วนใหญ่จะมีขนาดมาตรฐานที่กำหนดโดยผู้ผลิต แต่การเลือกขนาดที่เหมาะสมยังขึ้นอยู่กับประเภทของประตูและความต้องการในการใช้งานค่ะ

    • วัดขนาดช่องเปิดให้ถูกต้องก่อนเลือกซื้อ
    • ควรเลือกขนาดที่พอดีกับช่องเปิด เพื่อไม่ต้องปรับแก้ช่องเปิดมากเกินไป
    • คำนึงถึงความสูงของฝ้าเพดานและพื้นที่โดยรอบ

  3. คุณภาพของวัสดุ

    ตรวจสอบคุณภาพของประตู WPC โดยดูจาก

    • ความหนาของบานประตู
    • ความเรียบร้อยของการประกอบชิ้นส่วน
    • คุณภาพของสีและลายไม้
    • การรับประกันจากผู้ผลิต

  4. สไตล์และการออกแบบ

    • เลือกลายไม้และสีที่เข้ากับการตกแต่งภายในบ้าน
    • พิจารณารูปแบบประตู เช่น บานเรียบ บานลูกฟัก หรือบานกระจก
    • คำนึงถึงอุปกรณ์เสริม เช่น มือจับ หรือลูกบิด ที่เข้ากับสไตล์ของประตู

  5. ระบบความปลอดภัย

    ประตูที่ติดตั้งในพื้นที่มีความปลอดภัยสูง (เช่น ประตูหน้า) ควรเลือกประตูที่มีคุณสมบัติการป้องกันที่ดี เช่น ระบบล็อกที่ปลอดภัย หรือความทนทานต่อการโจรกรรม

    • เลือกประตูที่สามารถรองรับอุปกรณ์ล็อกที่มีความปลอดภัยสูง
    • พิจารณาความหนาและความแข็งแรงของบานประตู

  6. ราคาและช่วยลดค่าใช้จ่าย

    แม้ราคาเริ่มต้นของประตู WPC สูงกว่าประตูไม้แบบดั้งเดิม แต่ก็ช่วยลดค่าใช้จ่ายในระยะยาวเพราะความทนทานและความต้องการในการบำรุงรักษาที่ต่ำ

    • เปรียบเทียบราคาจากหลายแหล่งจำหน่าย
    • พิจารณาค่าใช้จ่ายในการติดตั้งร่วมด้วย
    • คำนึงถึงค่าบำรุงรักษาในระยะยาว

  7. ตรวจสอบการรับประกัน

    • ศึกษาเงื่อนไขการรับประกันจากผู้ผลิต
    • สอบถามถึงบริการหลังการขาย
    • ขอคำแนะนำในการติดตั้งและการดูแลรักษา


การดูแลรักษาประตู WPC เพื่อคงความสวยและยืดอายุการใช้งาน

ประตู WPC ต้องการการดูแลรักษาน้อยกว่าประตูไม้ธรรมชาติ แต่การดูแลที่เหมาะสมจะช่วยรักษาความงามและยืดอายุการใช้งานได้ ดังนี้

การทำความสะอาดทั่วไป

  • ประตู WPC ต้องการการบำรุงรักษาน้อยที่สุด และสามารถทำความสะอาดได้ง่ายด้วยน้ำและผงซักฟอกอ่อน ๆ
  • ทำความสะอาดเป็นประจำด้วยผ้าชุบน้ำบิดหมาด เช็ดฝุ่นละอองและคราบสกปรก
  • หลีกเลี่ยงการใช้น้ำยาทำความสะอาดที่มีฤทธิ์กัดกร่อนหรือมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์เข้มข้น
  • สำหรับคราบสกปรกที่ติดแน่น ให้ใช้น้ำผสมผงซักฟอกอ่อน ๆ เช็ดทำความสะอาด แล้วเช็ดตามด้วยผ้าชุบน้ำสะอาดบิดหมาด

การป้องกันความเสียหาย

  • หลีกเลี่ยงการกระแทกหรือขีดข่วนบนผิวประตู
  • ใช้อุปกรณ์กันกระแทกเพื่อป้องกันประตูกระแทกกับผนังเมื่อเปิดประตู
  • หลีกเลี่ยงการวางวัตถุหนักพิงกับประตูเป็นเวลานาน

การดูแลบานพับและอุปกรณ์

  • หยอดน้ำมันหล่อลื่นบานพับและกลไกล็อกเป็นประจำ 3-6 เดือนครั้ง
  • ตรวจสอบสกรูและน็อตที่ยึดบานพับและอุปกรณ์ล็อคเป็นประจำ หากพบว่าหลวม ให้ขันให้แน่น
  • เช็ดทำความสะอาดอุปกรณ์โลหะด้วยผ้าชุบน้ำบิดหมาด เพื่อป้องกันการสะสมของฝุ่นและความชื้น

การป้องกันความชื้น

แม้ประตู WPC จะทนต่อความชื้นได้ดี แต่การเช็ดน้ำที่เปียกก็ช่วยยืดอายุการใช้งานได้

  • เช็ดน้ำที่กระเด็นหรือหกใส่ประตูให้แห้งทันที
  • ในห้องน้ำหรือห้องที่มีความชื้นสูง ควรเปิดพัดลมระบายอากาศหรือหน้าต่างเพื่อลดความชื้น
  • ตรวจสอบรอยรั่วซึมรอบ ๆ ประตูเป็นประจำ โดยเฉพาะในห้องน้ำ

การป้องกันแสงแดด

  • สำหรับประตู WPC ที่ติดตั้งภายนอกหรือโดนแสงแดดโดยตรง พิจารณาใช้สารเคลือบป้องกัน UV ตามคำแนะนำของผู้ผลิต
  • หากเป็นไปได้ ควรติดตั้งกันสาดหรือหลังคาเพื่อบังแสงแดดโดยตรง

การซ่อมแซมรอยขีดข่วนหรือความเสียหายเล็กน้อย

  • สำหรับรอยขีดข่วนเล็ก ๆ สามารถใช้ดินสอเทียนหรือสีที่มีโทนใกล้เคียงกับสีประตูระบายทับได้
  • สำหรับความเสียหายที่ลึกกว่า แนะนำให้ปรึกษาผู้ผลิตหรือช่างผู้เชี่ยวชาญเพื่อขอคำแนะนำในการซ่อมแซม

การตรวจสอบเป็นประจำ

  • ตรวจสอบสภาพประตู บานพับ และอุปกรณ์ล็อคเป็นประจำทุก 6 เดือน
  • สังเกตการเปลี่ยนแปลงของสี รอยร้าว หรือการบิดงอของประตู
  • หากพบความผิดปกติ ควรแก้ไขทันทีเพื่อป้องกันความเสียหายที่ลุกลามได้

ด้วยการดูแลรักษาที่เหมาะสม ประตู WPC จะสามารถคงความงามและใช้งานได้นานกว่า 10 ปี โดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนหรือซ่อมแซมบ่อยเหมือนประตูวัสดุอื่น ๆ


สรุป

ประตู WPC หรือ Wood Plastic Composite คือ นวัตกรรมวัสดุที่รวมข้อดีของทั้งไม้และพลาสติกเข้าด้วยกัน ทำให้ได้ประตูที่มีทั้งความงามเหมือนไม้ธรรมชาติ แต่มีความทนทานและดูแลรักษาง่ายกว่า โดยประตู WPC ผลิตจากการนำผงไม้หรือเส้นใยไม้มาผสมกับพอลิเมอร์พลาสติก ผ่านกระบวนการรีดขึ้นรูปเป็นชิ้นเดียว

ประตู WPC มีคุณสมบัติเด่นหลายอย่าง ได้แก่ ทนน้ำและความชื้นสูง ไม่บวมน้ำ ทนปลวกและแมลง มีความแข็งแรงทนทาน ทนต่อสภาพอากาศและแสง UV ไม่ติดไฟง่าย และมีอายุการใช้งานนานกว่า 10 ปี นอกจากนี้ยังดูแลรักษาง่าย ไม่ต้องทาสีหรือเคลือบผิวบ่อย และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพราะผลิตจากวัสดุรีไซเคิลค่ะ

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้