7 จำนวนผู้เข้าชม |
 
                    การดูแลรักษากระเบื้องยางไม่แตกต่างกันตามสี แต่สีอ่อนอาจเปื้อนง่ายกว่า
สีกระเบื้องยาง มีพลต่อบรรยากาศและความรู้สึกภายในห้อง เพราะกระเบื้องยางเป็นวัสดุปูพื้นที่ถูกพัฒนาให้มีความแข็งแรงทนทาน มีลวดลายและเฉดสีที่หลากหลาย การเลือกโทนสีของพื้นไม่ใช่แค่เรื่องของความสวยอย่างเดียว แต่ยังเป็นการสร้างอารมณ์ที่แตกต่างให้กับพื้นที่อีกด้วย
บทความนี้จาก S.J.Sourcing ขอเสนอแนวทางในการจับคู่โทนสีกระเบื้องยางให้กลมกลืนไปกับสีของผนังและเฟอร์นิเจอร์ เพื่อให้บ้านสามารถสะท้อนตัวตนของผู้อยู่อาศัยได้อย่างลงตัวค่ะ
เลือกอ่านตามกัวข้อ
 

การเลือก สีกระเบื้องยาง คือส่วนหนึ่งของการตกแต่งที่สร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับบรรยากาศของห้อง โทนสีที่แตกต่างกันสามารถส่งผลต่อความรู้สึก ทำให้ห้องดูสว่าง กว้างขวาง อบอุ่น หรือดูหรูหราขึ้นมาได้ค่ะ
สีในกลุ่มนี้จะช่วยทำให้ห้องดูมีพื้นที่มากขึ้นและให้ความรู้สึกผ่อนคลาย ได้แก่
สีพาสเทล เช่น ชมพูอ่อน ฟ้าอ่อน หรือเขียวมินต์ ให้ความรู้สึกที่นุ่มนวล อ่อนหวาน และช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย
สีโทนเข้มสามารถสร้างความรู้สึกที่แตกต่างกัน ทำให้ห้องดูมีเอกลักษณ์และน่าค้นหา เช่น
สีน้ำเงินเข้ม ให้ความรู้สึกสงบ สุขุม และดูภูมิฐาน ช่วยสร้างบรรยากาศที่เหมาะกับการพักผ่อนทางความคิด
ลวดลายไม้ธรรมชาติ ช่วยเพิ่มความอบอุ่นและทำให้พื้นที่ดูมีชีวิตชีวามากขึ้น การเลือกลายไม้ในเฉดสีที่ต่างกันก็ให้อารมณ์ความรู้สึกที่แตกต่างกันค่ะ
สี Greige (เทาผสมเบจ) โทนสีกลางที่ผสมผสานความอบอุ่นของสีเบจกับความทันสมัยของสีเทา เข้ากันได้ดีกับการตกแต่งสไตล์สแกนดิเนเวียน
นอกจากการเลือกสีกระเบื้องยางตามความชอบส่วนตัวแล้ว การเลือกให้เข้ากับสไตล์การตกแต่งที่วางแผนไว้ก็เป็นอีก่วนหนึ่งที่ช่วยให้ภาพรวมของห้องออกมาสวยและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน เพราะแต่ละสไตล์ก็จะมีกลุ่มสีที่ส่งเสริมกันและกัน เช่น
| สไตล์การตกแต่ง | โทนสีที่แนะนำ | 
|---|---|
| สไตล์โมเดิร์น | สีขาว สีดำ สีเทา หรือกลุ่มสีโมโนโทน | 
| สไตล์มินิมอล | สีขาว สีเทาอ่อน สีเบจ หรือกลุ่มสีพาสเทล | 
| สไตล์สแกนดิเนเวียน | สีขาว สีเทาอ่อน สีเบจ หรือสีลายไม้ธรรมชาติ | 
| สไตล์ลอฟท์ | สีดำ สีเทาเข้ม สีน้ำตาล หรือสีลายปูนเปลือย/อิฐ | 
สีกระเบื้องยางนอกจากจะช่วยสร้างอารมณ์แล้ว ยังสามารถช่วยแก้ไขข้อจำกัดของพื้นที่ได้อีกด้วย เช่น
ห้องที่มีแสงมาก สามารถใช้สีเข้มได้เพื่อสร้างความรู้สึกอบอุ่น
 

การเลือกสีกระเบื้องยางให้เข้ากับแต่ละห้องควรพิจารณาหลายปัจจัย ทั้งขนาดของห้อง วัตถุประสงค์การใช้งาน และองค์ประกอบอื่น ๆ ในห้อง การทำความเข้าใจหลักการเลือกสีจะช่วยให้การตกแต่งห้องออกมาลงตัวและสวยตามที่ต้องการค่ะ
หนึ่งในหลักการที่ช่วยสร้างความสมดุลให้ห้องดูสวยคือการใช้อัตราส่วนสี 60:30:10 ที่เป็นการแบ่งสัดส่วนของสีหลัก สีรอง และสีที่ใช้สร้างจุดสนใจ เพื่อให้ภาพรวมของห้องดูกลมกลืนกัน ดังนี้
สีสร้างจุดสนใจ (10%) สีที่ใช้ตกแต่งเพื่อเพิ่มมิติให้กับห้อง
ถ้าต้องการให้เฟอร์นิเจอร์เป็นจุดเด่น ให้เลือกสีกระเบื้องและสีผนังเป็นโทนเดียวกันหรือใกล้เคียงกัน เพื่อขับให้เฟอร์นิเจอร์ดูน่าสนใจขึ้น
แต่ละห้องในบ้านมีจุดประสงค์การใช้งานที่แตกต่างกัน การเลือกสีกระเบื้องยางให้สอดคล้องกับบรรยากาศและการใช้งานของห้องนั้น ๆ จะช่วยเสริมให้พื้นที่น่าอยู่ขึ้นค่ะ
ห้องนี้เป็นพื้นที่ส่วนกลางที่ใช้ทำกิจกรรมร่วมกัน สีของกระเบื้องยางควรช่วยสร้างบรรยากาศที่สดใสและผ่อนคลาย โดยเลือกให้เข้ากับสีผนังกับเฟอร์นิเจอร์ชิ้นหลักในห้อง เช่น
กระเบื้องยางสีดำ ในห้องที่ผนังเป็นสีขาวหรือสีโทนอ่อนจะช่วยเพิ่มมิติให้กับห้องได้
ห้องนอนเป็นพื้นที่สำหรับการพักผ่อน การเลือกใช้โทนสีอ่อน เช่น น้ำตาลอ่อน ฟ้าอ่อน หรือสีเทา จะช่วยสร้างความรู้สึกอบอุ่นและสบายตา การใช้สีกระเบื้องปูพื้นห้องนอนลายไม้ก็เป็นอีกทางเลือกที่ช่วยให้ห้องดูผ่อนคลายค่ะ
กระเบื้องลายไม้โทนสีสว่างกับห้องนอนโทนสีเข้ม ตัดด้วยเฟอร์นิเจอร์สีไม้หรือสีขาว ทำให้ห้องนอนดูอบอุ่นและน่าพักผ่อน
ในห้องครัวมีองค์ประกอบหลายอย่าง ทั้งเคาน์เตอร์ ตู้ และเครื่องใช้ไฟฟ้า ควรเลือกสีกระเบื้องยางที่ดูกลมกลืนกับทำความสะอาดง่าย เพราะห้องครัวเป็นพื้นที่ที่เกิดคราบสกปรกได้ง่าย เช่น
กระเบื้องยางสีเข้ม สามารถใช้กับห้องครัวขนาดใหญ่ที่มีแสงสว่างเพียงพอ
ขนาดของห้องเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่มีผลต่อการเลือกสีกระเบื้องยาง สีที่แตกต่างกันสามารถสร้างความรู้สึกต่อพื้นที่ได้ไม่เหมือนกัน สีโทนอ่อนจะช่วยทำให้ห้องดูมีพื้นที่กว้างขวางขึ้น ส่วนสีโทนเข้มจะให้ความรู้สึกอบอุ่นและมีระดับค่ะ
ห้องขนาดใหญ่ สามารถเลือกใช้สีโทนเข้มได้ เช่น สีน้ำตาลแดง หรือสีเทาเข้ม เพื่อสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและดูภูมิฐาน
สไตล์การตกแต่งแต่ละแบบมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกัน การเลือกสีกระเบื้องยางที่สอดคล้องกับสไตล์ที่ต้องการจะช่วยเสริมบรรยากาศโดยรวมของห้องให้สมบูรณ์ขึ้นค่ะ
สไตล์ลอฟท์ เป็นการตกแต่งที่เน้นความดิบและเท่ โดยใช้สีหลักเป็นสีดำ สีเทา สีน้ำตาล หรือสีอิฐ การเลือกกระเบื้องยางในโทนสีเหล่านี้จะช่วยเสริมความเป็นลอฟท์ได้เป็นอย่างดี
 

สีกระเบื้องยางมีวิธีการดูแลเบื้องต้นที่คล้ายคลึงกัน แต่ก็มีเทคนิคเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่แตกต่างกันในแต่ละโทนสี เพื่อช่วยให้พื้นบ้านดูสวยเหมือนใหม่อยู่เสมอ การใส่ใจในรายละเอียดเหล่านี้จะช่วยถนอมพื้นผิวและคงความสดใสของสีไว้ได้นานขึ้นค่ะ
การทำความสะอาดเป็นประจำคือหัวใจของการดูแลพื้นกระเบื้องยางให้ดูดีอยู่เสมอ การใส่ใจในรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ตั้งแต่การทำความสะอาดรายวันจนถึงการป้องกันรอยขีดข่วน จะช่วยยืดอายุการใช้งานและคงความสวยงามของพื้นไว้ได้ สำหรับขั้นตอนการดูแลพื้นฐานที่สามารถทำได้เป็นประจำ มีดังนี้
ป้องกันรอยขีดข่วน ติดแผ่นรองสักหลาดที่ขาโต๊ะ เก้าอี้ และเฟอร์นิเจอร์อื่น ๆ เพื่อป้องกันการลากถูที่อาจสร้างความเสียหายให้กับพื้น
โทนสีของกระเบื้องยางมีผลต่อการมองเห็นคราบสกปรกและรอยขีดข่วน การเลือกใช้วิธีดูแลที่เหมาะกับสี จะช่วยให้การทำความสะอาดง่ายขึ้น ทำให้พื้นดูสะอาดตาอยู่เสมอ ได้แก่
กระเบื้องยางลายไม้ การดูแลเพิ่มเติมด้วยการลงน้ำยาเคลือบผิวจะช่วยป้องกันผิวหน้าจากรอยขีดข่วน และยังช่วยไม่ให้สีของลายไม้หลุดลอกถ้าเกิดการกระแทก การเคลือบผิวยังเพิ่มความมันวาว ทำให้พื้นดูเหมือนใหม่อยู่ตลอดเวลา
นอกจากการทำความสะอาดแล้ว ยังมีเคล็ดลับอีกเล็กน้อยที่จะช่วยรักษาสภาพและสีสันของกระเบื้องยางให้สีสดนานขึ้นค่ะ
พิจารณาใช้น้ำยาเคลือบผิวเป็นครั้งคราว เพื่อสร้างชั้นฟิล์มป้องกันรอยขีดข่วนและเพิ่มความเงางามให้กับพื้น
 
การเลือก สีกระเบื้องยาง ให้กลมกลืนไปกับสีผนังและเฟอร์นิเจอร์ ช่วยกำหนดบรรยากาศโดยรวมของบ้านได้อย่างลงตัว การตัดสินใจเลือกโทนสีพื้นนั้นมีส่วนประกอบหลายอย่างที่ต้องพิจารณา ทั้งขนาดของพื้นที่ วัตถุประสงค์การใช้งานของห้องนั้น ๆ จนถึงสไตล์การตกแต่งที่สะท้อนรสนิยมของเจ้าของบ้าน ช่วยเสริมให้บ้านดูมีมิติและน่าอยู่ขึ้นอีกด้วย
ปัจจุบันมีสีกระเบื้องยางให้เลือกมากมาย ตั้งแต่โทนสีอ่อนที่ทำให้ห้องดูสว่างและกว้างขึ้น โทนสีเข้มที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น จนถึงลายไม้ สำหรับการจับคู่สีเพื่อให้เกิดความสมดุล สามารถนำเทคนิค 60:30:10 มาปรับใช้ได้ โดยเป็นการแบ่งสัดส่วนของสีหลัก สีรอง และสีไฮไลท์ เพื่อให้ทุกองค์ประกอบในห้องดูลงตัว
พื้นฐานการทำความสะอาดกระเบื้องยางแต่ละสีอาจไม่ต่างกันมาก แต่ก็มีรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ควรรู้ เช่น พื้นสีอ่อนอาจมองเห็นคราบสกปรกได้ง่ายกว่า ทำให้ไม่ต้องทำความสะอาดบ่อยครั้ง ส่วนพื้นสีเข้มก็อาจทำให้เห็นรอยขีดข่วนหรือฝุ่นผงได้ง่ายกว่าค่ะ