7 ขั้นตอนการถอดลูกบิดประตู และวิธีติดตั้งสำหรับมือใหม่

330 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ภาพปกบทความแสดงลูกบิดประตูสแตนเลสและข้อความ 7 ขั้นตอนการถอดลูกบิดประตู และวิธีติดตั้งสำหรับมือใหม่

S.J.Sourcing สรุปให้

  • การถอดลูกบิดประตู สามารถทำได้ด้วยตัวเอง ใช้เวลาประมาณ 15-20 นาที
  • ต้องเตรียมอุปกรณ์พื้นฐาน เช่น ไขควง คลิปหนีบกระดาษ หรือตะปู
  • ขั้นตอนหลักคือ หาช่องปลดล็อกที่คอลูกบิด ถอดหัวลูกบิดออก คลายสกรูยึด และถอดส่วนประกอบที่เหลือ
  • ถ้าเกิดปัญหาลูกบิดค้าง ควรใช้เทคนิคแก้ไขง่าย ๆ เช่น หยอดน้ำมันหล่อลื่น หรือใช้บัตรพลาสติกช่วย
  • ถ้าพบว่าโครงสร้างซับซ้อน ลูกบิดเสียหายมาก หรือประตูล็อคค้างฉุกเฉิน ควรเรียกช่างมาช่วย


การถอดลูกบิดประตู สำหรับมือใหม่อาจดูเป็นเรื่องยาก แต่ความจริงแล้วทำได้ง่ายกว่าที่คิด แค่เตรียมอุปกรณ์พื้นฐานให้พร้อมและทำความเข้าใจขั้นตอนที่ถูกต้องก็สามารถทำเองได้

บทความนี้ S.J.Sourcing ขอแนะนำวิธีถอดลูกบิดประตูและขั้นตอนการติดตั้งกลับเข้าไปใหม่แบบทีละขั้นตอน ทำให้ทุกคนทำตามได้ง่าย ๆ ที่บ้าน ช่วยลดเวลาและค่าใช้จ่ายในการเรียกช่างค่ะ

เลือกอ่านตามหัวข้อ

ทำไมต้อง ถอดลูกบิดประตู และต้องเตรียมอะไรบ้าง ?

การถอดลูกบิดประตู มีสาเหตุได้หลายอย่าง ส่วนมากเป็นการเปลี่ยนลูกบิดเก่าที่ชำรุดหรือฝืด เปลี่ยนเป็นลูกบิดใหม่เพื่อปรับปรุงหน้าตาของประตู หรือถอดออกมาเพื่อทำความสะอาดกลไกด้านใน ควรเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อมก่อนลงมือ ช่วยให้ทุกขั้นตอนราบรื่นขึ้น อุปกรณ์พื้นฐานที่ควรมีติดบ้านไว้ มีดังนี้

  1. ไขควงปากแฉกและปากแบนขนาดต่าง ๆ
  2. อุปกรณ์ปลดสลัก เช่น คลิปหนีบกระดาษที่ดัดให้ตรง ตะปูเล็ก หรือลวดแข็ง
  3. ผ้าหรือกระดาษทิชชู่สำหรับเช็ดทำความสะอาด
  4. น้ำมันหล่อลื่นหรือสเปรย์ซิลิโคน (สำหรับกรณีลูกบิดฝืด)
  5. ลูกบิดตัวใหม่ (กรณีเปลี่ยนลูกบิด) — ลูกบิดประตูยี่ห้อไหนดี ?
  6. เทปกาวหรือกระดาษโน้ต (สำหรับจดขั้นตอนหรือติดสกรูไว้)
  7. ไฟฉายหรือแหล่งแสงสว่างที่เพียงพอ

ถ้าเป็นการเปลี่ยนลูกบิดประตูใหม่ ควรวัดขนาดประตูและของเดิมไว้ด้วย ทั้งความหนาของประตู ระยะห่างของรูสกรู และความลึกของเดือยล็อก เพื่อให้ลูกบิดใหม่ที่เลือกมาสามารถติดตั้งได้พอดีและใช้งานได้สะดวกค่ะ

ขั้นตอนการ ถอดลูกบิดประตู แบบมาตรฐาน

การถอดลูกบิดประตูแบบมาตรฐานทำได้ไม่ยาก และใช้เวลาประมาณ 15-20 นาที แค่ทำตามขั้นตอนง่าย ๆ ดังนี้

  1. เริ่มจากมองหารูเล็ก ๆ ที่คอลูกบิดฝั่งด้านในห้อง (ฝั่งที่มีปุ่มล็อก) รูนี้เป็นจุดสำหรับปลดกลไกของลูกบิด
  2. นำคลิปหนีบกระดาษที่ดัดให้ตรงแล้ว หรืออุปกรณ์ปลายแหลมเล็ก ๆ สอดเข้าไปในช่องที่เจอ แล้วกดลงไปเพื่อปลดสลักล็อก
  3. เมื่อปลดสลักเรียบร้อย ให้ดึงหัวลูกบิดด้านในออกมาตรง ๆ จากนั้นหมุนหรือแงะฝาครอบที่ติดกับบานประตูออก
  4. เมื่อถอดชิ้นส่วนด้านในออกหมดแล้ว ลูกบิดด้านนอกก็จะหลวมและสามารถดึงออกมาได้เลย
  5. ใช้ไขควงขันสกรูสองตัวที่ยึดแผ่นโลหะกับประตูออก แนะนำให้สังเกตและจำตำแหน่งของแผ่นยึดไว้ด้วย
  6. ที่สันประตู จะมีชุดกลอนสลักติดอยู่ ให้ใช้ไขควงขันสกรูที่ยึดไว้ออก แล้วดึงชุดกลอนออกมา
  7. ก่อนติดตั้งลูกบิดใหม่ ควรทำความสะอาดเศษฝุ่นหรือขี้เลื่อยบริเวณรูประตูและสันประตูให้เรียบร้อย

ระหว่างขั้นตอนการถอดลูกบิดประตู ถ้าไม่แน่ใจ แนะนำให้ถ่ายรูปเก็บไว้เป็นระยะ ๆ ช่วยให้การติดตั้งกลับคืนง่ายขึ้น เมื่อถอดชิ้นส่วนทั้งหมดออกมาแล้ว ควรเก็บรวบรวมไว้ในที่เดียวกันเพื่อป้องกันการสูญหายและสะดวกต่อการนำมาประกอบใหม่ค่ะ

วิธีถอดลูกบิดประตู เมื่อเกิดปัญหาเฉพาะหน้า

การถอดลูกบิดประตูบางครั้งก็ไม่ได้ราบรื่นเสมอไป โดยเฉพาะเมื่อเจอปัญหาที่ไม่คาดคิด วิธีการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้แก่

1. กรณีลูกบิดค้าง หมุนไม่ได้ ให้ลองหยอดน้ำมันหล่อลื่นลงในช่องกุญแจและกลไกหมุน ทิ้งไว้ 5-10 นาทีให้น้ำมันซึมเข้าไป จากนั้นค่อย ๆ ขยับลูกบิดดู หรือใช้ไขควงปากแบนสอดเข้าระหว่างแผ่นยึดกับบานประตู ค่อย ๆ งัดให้เกิดช่องว่างเล็กน้อย แล้วใช้คลิปหนีบกระดาษสอดเข้าไปเพื่อปลดกลไก
2. กรณีหาปุ่มหรือรูปลดล็อกไม่เจอ ลูกบิดบางรุ่นเป็นแบบเกลียว ให้ลองจับที่ฐานของฝาครอบแล้วหมุนทวนเข็มนาฬิกาเพื่อถอดออก ถ้าไม่มีร่องสำหรับงัด ลองใช้อุปกรณ์ปลายแหลมเล็ก ๆ สอดเข้าไปตามขอบฝาครอบ แล้วค่อย ๆ งัดรอบ ๆ เพื่อให้ฝาครอบหลุดออกมา
3. กรณีสกรูแน่นเกินไป ถอดออกยาก หยอดน้ำมันหล่อลื่นลงบนสกรูแล้วรอสักครู่ จากนั้นใช้ไขควงที่มีขนาดพอดีกับหัวสกรูเพื่อขันออก ถ้าหัวสกรูเริ่มเสียหาย ให้ใช้ไขควงตอกหรือใช้คีมจับที่หัวสกรูเพื่อช่วยหมุน
4. กรณีปุ่มล็อกค้าง สำหรับปุ่มล็อกแบบนูน ให้ใช้มือกดปุ่มลงไปให้แน่นแล้วหมุนขึ้นเพื่อคลายล็อก ถ้าเป็นปุ่มล็อกที่มีร่องตรงกลาง ให้ใช้นิ้วโป้งกดลงไปในร่องให้แน่นแล้วหมุนขึ้นเช่นกัน
5. กรณีประตูล็อก แต่เข้าห้องไม่ได้ ให้ใช้บัตรพลาสติกแข็ง ๆ เช่น บัตรเครดิตเก่า สอดเข้าไปตรงช่องว่างระหว่างบานประตูกับวงกบ ในตำแหน่งของสลักล็อก ค่อย ๆ ขยับบัตรขึ้นลงพร้อมกับดันสลักเข้าไปเพื่อให้ประตูเปิดออก ถ้าเป็นสถานการณ์ฉุกเฉินและทำตามวิธีข้างต้นไม่ได้ผล การเรียกช่างเป็นทางออกที่ดีกว่า

ถ้าเจอกับปัญหาเฉพาะหน้า การใช้ความอดทนและค่อย ๆ ทำอย่างระมัดระวังเป็นสิ่งสำคัญ หลีกเลี่ยงการใช้แรงมากเกินไปที่อาจทำให้อุปกรณ์หรือประตูเสียหายค่ะ

การติดตั้งและเปลี่ยนลูกบิดประตูใหม่

หลังจากถอดลูกบิดประตูเก่าออกเรียบร้อย การติดตั้งลูกบิดใหม่เป็นขั้นตอนที่ทำได้ง่าย ๆ แค่ทำย้อนขั้นตอนการถอดเท่านั้นเอง โดยมีขั้นตอนตามลำดับดังนี้

  1. เปรียบเทียบลูกบิดใหม่กับลูกบิดเก่า เพื่อให้แน่ใจว่ามีขนาดและรูปแบบเดียวกัน รวมถึงตำแหน่งรูสกรูต้องตรงกัน
  2. ใส่ชุดกลไกล็อก (ส่วนที่มีเดือยล็อก) เข้าไปในรูที่สันประตู ให้เดือยล็อกหันไปทางวงกบประตู
  3. วางเพลทยึดให้ตรงกับรูสกรู ขันสกรูให้แน่นพอประมาณ ยังไม่ต้องขันจนสุดเผื่อต้องปรับตำแหน่ง
  4. สอดแกนลูกบิดทรงสี่เหลี่ยมผ่านรูของเพลทยึดเข้าไปในกลไกล็อก ตรวจสอบให้แกนเสียบเข้าไปจนสุดและอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง
  5. นำลูกบิดด้านนอกมาประกอบเข้ากับแกน จัดให้รูสกรูตรงกับเพลทยึด
  6. ประกอบลูกบิดด้านในเข้ากับแกนอีกฝั่ง เช็คว่าปุ่มล็อกอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง
  7. ถ้าประกอบทุกส่วนเข้าที่ ให้ขันสกรูทั้งหมดให้แน่น โดยขันสลับกันระหว่างสกรูตัวบนและตัวล่างเพื่อให้แรงยึดกระจายตัวสม่ำเสมอ
  8. ลองหมุนลูกบิด ล็อก และปลดล็อกหลาย ๆ ครั้ง เพื่อตรวจสอบว่ากลไกทำงานได้ราบรื่น ลองเปิดปิดประตูเพื่อดูว่าเดือยล็อกเข้ากับแผ่นรับบนวงกบได้พอดี

เทคนิคเพิ่มเติมในการติดตั้ง

  • ใช้ไขควงที่มีขนาดพอดีกับหัวสกรู เพื่อป้องกันไม่ให้หัวสกรูเสียหายระหว่างขัน
  • ถ้าติดตั้งแล้วรู้สึกว่าลูกบิดหลวม สามารถใช้ไม้โป๊วหรือวัสดุอุดรูสกรูเดิมก่อนเพื่อให้ขันได้แน่นขึ้น
  • การหยอดน้ำมันหล่อลื่นเล็กน้อยที่กลไกก่อนประกอบ ช่วยให้ลูกบิดทำงานได้ลื่นขึ้น

เมื่อไหร่ที่ไม่ควรฝืน ถอดลูกบิดประตูเอง และควรเรียกช่าง ?

การถอดลูกบิดประตูเป็นงานที่หลายคนทำได้เอง แต่ก็มีบางสถานการณ์ที่การเรียกช่างมาดูแลจะเป็นทางออกที่ดีกว่า การประเมินสถานการณ์ก่อนลงมือทำจะช่วยป้องกันความเสียหายที่บานปลายได้ค่ะ สถานการณ์ที่ควรพิจารณาเรียกช่างเข้ามาดูแล ได้แก่

  • ลูกบิดเสียหายรุนแรง กรณีที่ลูกบิดแตกหัก บิดเบี้ยว หรือมีสภาพชำรุดมาก การถอดจะซับซ้อนและเสี่ยงต่อความเสียหายเพิ่มเติม
  • โครงสร้างประตูซับซ้อน ประตูที่มีโครงสร้างเฉพาะ เช่น ประตูกระจกนิรภัย ประตูห้องเก็บของมีค่า และประตูที่มีระบบล็อกแบบอื่นติดตั้งร่วมด้วย
  • เกิดเหตุฉุกเฉิน ถ้ามีคนติดอยู่ในห้องและไม่สามารถเปิดประตูได้ โดยเฉพาะเด็กหรือผู้สูงอายุ ควรติดต่อช่างหรือหน่วยกู้ภัยทันที
  • มีระบบเสริมความปลอดภัย ประตูที่มีการติดตั้งระบบล็อกไฟฟ้า ระบบสแกนลายนิ้วมือ และระบบเสริมความปลอดภัยอื่น ๆ
  • ไม่มีเครื่องมือที่พร้อม ถ้าไม่มีเครื่องมือที่ถูกต้องและพร้อม การฝืนทำต่อจะสร้างความเสียหายให้กับประตูหรือตัวลูกบิด
  • ประตูบวมหรือเสียรูป ประตูมีอาการบวมจากความชื้น หรือกรอบประตูบิดเบี้ยว ทำให้ลูกบิดติดแน่นและถอดยากกว่าปกติ
  • เกิดปัญหาเดิมซ้ำ ๆ ลูกบิดเกิดปัญหาเดิมซ้ำบ่อยครั้ง เป็นสัญญาณว่าต้นตอของปัญหาอาจซับซ้อนกว่าแค่ตัวลูกบิด ควรให้ช่างตรวจหาสาเหตุ
  • ลูกบิดรุ่นเก่า ถ้าลูกบิดเป็นรุ่นเก่ามาก มีกลไกการทำงานที่ไม่เหมือนรุ่นทั่วไป และหาอะไหล่ทดแทนได้ยาก

การประเมินหน้างานและความพร้อมของตัวเองเป็นเรื่องแรกที่ควรทำ บางครั้งการยอมเสียค่าใช้จ่ายเพื่อเรียกช่างมาจัดการ ก็ดีกว่าการเสี่ยงลงมือถอดลูกบิดประตูเอง แล้วเกิดความเสียหายที่ต้องซ่อมแซมมากกว่าเดิมค่ะ

อ่านเพิ่มเติม: ช่างเปลี่ยนลูกบิดประตูราคา คิดค่าแรงและค่าติดตั้งอย่างไร ?

สรุป

การถอดลูกบิดประตู สามารถทำเองได้ง่าย ๆ ถ้ามีเครื่องมือและเข้าใจขั้นตอนที่ถูกต้อง โดยเริ่มจากการหารูปลดล็อกที่คอลูกบิด ใช้เครื่องมือเพื่อปลดสลัก ถอดหัวลูกบิดและแผ่นยึดออก ตามด้วยการนำชุดกลไกทั้งหมดออกมา สำหรับการติดตั้งลูกบิดใหม่ก็แค่ทำย้อนขั้นตอนเดิม แล้วทดสอบการทำงานให้เรียบร้อย

ถ้าเจอปัญหาเฉพาะหน้าอย่างลูกบิดติดขัดหรือไม่พบรูปลดล็อก ก็มีเทคนิคที่สามารถนำมาใช้ได้ เช่น การใช้น้ำมันหล่อลื่น หรือการใช้บัตรพลาสติกช่วยเปิดสลัก

บางสถานการณ์ก็ควรเรียกใช้บริการช่างให้มาถอดลูกบิดประตู เช่น ถ้าลูกบิดเสียหายอย่างหนัก โครงสร้างประตูซับซ้อน หรือเกิดเหตุฉุกเฉินที่มีคนติดอยู่ในห้อง การมีความรู้และเทคนิคเหล่านี้ติดตัวไว้ ช่วยให้จัดการกับปัญหาลูกบิดประตูในสถานการณ์ส่วนใหญ่ได้ด้วยตัวเองค่ะ

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้