วงกบคืออะไร ? เปรียบเทียบข้อดีข้อจำกัดวัสดุแต่ละชนิดในการใช้งาน

S.J.Sourcing สรุปให้

• วงกบคือ โครงกรอบเชื่อมบานประตูและหน้าต่างเข้ากับผนัง รับน้ำหนักกับแรงกระแทกจากการใช้งาน
• วัสดุที่ใช้ทำมี 4 ประเภท ได้แก่ ไม้ อลูมิเนียม เหล็ก UPVC และ WPC แต่ละชนิดมีข้อดีข้อเสียต่างกัน
• เลือกวงกบตามสถานที่ติดตั้ง ทั้งภายในกับภายนอก งบที่มี และความทนทานที่ต้องการ
• ติดตั้งได้ 2 ระบบ แบบแห้งและแบบเปียก โดยระบบแห้งเร็วและสะอาด

• ปัญหาที่พบบ่อยจากประสบการณ์ผู้ใช้วงกบประตูคือ วงกบบิดงอ ปลวกกัดกิน และการวัดขนาดวงกบประตูไม่ตรงกับพื้นที่

วงกบคือ ตัวเชื่อมที่ยึดบานประตูเข้ากับผนัง และต้องรับแรงกระแทกจากการเปิดปิดทุกวัน การเลือกวัสดุหรือการติดตั้งที่ไม่ถูกต้องอาจทำให้ผนังร้าว ประตูเปิดปิดลำบาก หรือเสียหายเร็วกว่าที่ควร ปัญหาที่พบได้บ่อยก็มีทั้งวงกบไม้ผุพังจากปลวก บานประตูใช้งานติดขัด และการวัดขนาดที่ไม่พอดีกับพื้นที่เดิม

บทความนี้ S.J.Sourcing จะช่วยสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับวัสดุต่าง ๆ และอธิบายว่าวงกบประตูคืออะไร ตั้งแต่โครงสร้างกับหน้าที่ของมัน ขั้นตอนการติดตั้งหน้าต่างและวงกบประตู จนถึงวิธีเลือกที่เหมาะกับการใช้งาน เพื่อให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นค่ะ

เลือกอ่านตามหัวข้อ

• S.J.Sourcing สรุปให้
• วงกบคืออะไร โครงสร้างและหน้าที่ทำงานอย่างไร ?
• วัสดุที่ใช้ทำ วงกบคืออะไร และเหมาะกับการใช้งานแบบไหน ?
• ขั้นตอนการติดตั้งหน้าต่างและ วงกบประตูคืออะไร ?
• เลือกวงกบอย่างไรให้เข้ากับประตูและหน้าต่าง ?

• สรุป

วงกบคืออะไร โครงสร้างและหน้าที่ทำงานอย่างไร ?

วงกบคือ กรอบที่ติดตั้งเข้ากับผนังบ้าน ทำหน้าที่เป็นโครงสำหรับยึดบานประตูและหน้าต่าง โครงสร้างนี้ต้องรับน้ำหนักของบานประตูทั้งหมด รวมทั้งแรงกระแทกจากการเปิดปิด การเลือกวงกบที่แข็งแรงช่วยให้ประตูใช้งานได้สะดวก มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน และยังช่วยป้องกันปัญหาน้ำซึมหรือผนังแตกร้าวได้อีกด้วย

การทำความเข้าใจโครงสร้างกับส่วนประกอบต่าง ๆ ช่วยให้การติดตั้งและซ่อมแซมทำได้ง่ายขึ้น วงกบที่แข็งแรงต้องทนต่อแรงหลายรูปแบบเพื่อให้ใช้งานได้ดีในระยะยาวค่ะ

ส่วนประกอบของ วงกบประตูคือ

วงกบประตูประกอบขึ้นจากหลายชิ้นส่วน แต่ละชิ้นมีหน้าที่ต่างกันไปในการรองรับน้ำหนักและตกแต่งให้เรียบร้อย การทำความเข้าใจว่าส่วนประกอบของวงกบคืออะไรบ้าง จะช่วยให้ติดตั้งและซ่อมแซมได้ง่ายขึ้นค่ะ

• วงกบบน ส่วนที่เป็นกรอบด้านบนของประตูและหน้าต่าง
• วงกบข้าง กรอบด้านข้างทั้งสองฝั่ง ทำหน้าที่รับน้ำหนักบานประตู
• คิ้ววงกบบน ชิ้นส่วนสำหรับตกแต่งบริเวณด้านบนของวงกบ
• คิ้ววงกบล่าง ชิ้นส่วนสำหรับตกแต่งบริเวณด้านล่างของวงกบ

• ซับวงกบ ใช้ปิดรอยต่อระหว่างผนังกับวงกบเพื่อความเรียบร้อย

ความแข็งแรงที่จำเป็นของ วงกบประตูคืออะไรบ้าง ?

วงกบต้องมีความแข็งแรงสูงเพื่อรับน้ำหนักของประตูหรือหน้าต่างทั้งบาน และทนต่อแรงกระแทกจากการเปิดปิดซ้ำ ๆ ตัววงกบต้องไม่บิดโก่ง ไม่หดหรือขยายตัว เพื่อให้บานประตูเปิดใช้งานได้สะดวกและปิดได้สนิท

จากประสบการณ์ใช้งานจริง ปัญหาที่เกิดขึ้นบ่อยคือวงกบที่ไม่ได้มาตรฐาน ทำให้ประตูเปิดปิดลำบาก หรือบางครั้งต้องปรับแก้บานประตูเพื่อให้พอดี การเลือกวงกบที่มีคุณภาพตั้งแต่ต้นช่วยลดปัญหาเหล่านี้ในระยะยาวได้ค่ะ

วัสดุที่ใช้ทำ วงกบคืออะไร และเหมาะกับการใช้งานแบบไหน ?

วงกบคือโครงสร้างที่ทำหน้าที่เชื่อมบานประตูเข้ากับผนัง การเลือกวัสดุสำหรับทำวงกบประตูเป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาให้รอบคอบ เพราะวัสดุแต่ละชนิดมีคุณสมบัติและข้อจำกัดที่ต่างกัน

วัสดุที่ใช้งานกันมีหลายประเภท ทั้งไม้เนื้อแข็ง เหล็ก อะลูมิเนียม UPVC และไม้สังเคราะห์ WPC การเลือกใช้วัสดุขึ้นอยู่กับชนิดของบานประตู รูปแบบของอาคาร และความต้องการด้านการใช้งานเฉพาะทาง เช่น การกันไฟ กันน้ำ หรือกันเสียง การเข้าใจว่าวงกบประตูคืออะไรและทำจากวัสดุใดได้บ้าง ช่วยให้เลือกได้ตรงกับการใช้งานมากขึ้นค่ะ

วงกบไม้ ความคลาสสิกที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น

วงกบไม้เนื้อแข็งมีความแข็งแรงต่อน้ำหนักในอัตราส่วนที่ดี รับน้ำหนักประตูบานใหญ่ได้ และยังปรับเปลี่ยนสีได้ตามต้องการ ไม้ที่นำมาใช้กันมีหลายชนิด เช่น ไม้สัก ไม้แดง ไม้เต็ง และไม้มะค่า

ข้อดีของวงกบไม้

• มีความแข็งแรงทนทานสูง แตกหักหรือเสียหายได้ยาก
• มีลวดลายตามธรรมชาติ ให้ความรู้สึกอบอุ่น
• สามารถสั่งทำตามขนาดที่ต้องการและปรับเปลี่ยนสีได้ง่าย

• เข้ากับการตกแต่งบ้านสไตล์โอเรียนทอลหรือสไตล์มูจิ

ข้อจำกัดของวงกบไม้

• มีราคาสูงกว่าเมื่อเทียบกับวัสดุชนิดอื่น
• เนื้อไม้ยืดกับหดตัวได้ตามสภาพอากาศ ไม่ทนทานต่อปลวกถ้าไม่มีระบบป้องกัน และไม่ควรสัมผัสน้ำโดยตรง
• มีโอกาสบวมน้ำหรือเกิดเชื้อราถ้ามีความชื้นสะสมเป็นเวลานาน

• ถ้าวงกบคือไม้และดูแลไม่ทั่วถึง ปัญหาที่พบคือการผุพังจากปลวก ทำให้บานประตูเปิดปิดติดขัดจนต้องเปลี่ยนวงกบประตูใหม่

วงกบไม้เหมาะสำหรับประตูภายใน เช่น ห้องนอน ห้องรับแขก ห้องนั่งเล่น หรือห้องที่ไม่ต้องสัมผัสความชื้นและแสงแดดโดยตรง

วงกบอลูมิเนียม ทนทานและดูแลรักษาง่าย

อะลูมิเนียมคือโลหะที่มีน้ำหนักเบากว่าเหล็กถึงสามเท่า แต่ยังคงความแข็งแรงไว้ได้ในระดับที่น่าพอใจ สามารถทำความสะอาดได้ง่ายและทนทานต่อการสึกกร่อน วงกบอลูมิเนียมเป็นวัสดุที่ใช้งานกันมานานในประเทศไทย เพราะหาซื้อได้ง่ายกับราคาที่เข้าถึงได้ค่ะ

ข้อดีของวงกบอลูมิเนียม

• แข็งแรง ไม่บิดงอหรือโก่งตัว ปลวกไม่กิน และไม่เกิดเชื้อรา
• ทนต่อสภาพอากาศ ทั้งแดด น้ำ และฝน ทั้งยังไม่เป็นสนิม
• มีราคาไม่สูงเมื่อเทียบกับวงกบไม้

• ติดตั้งได้รวดเร็วเพราะเป็นวัสดุที่ผลิตมาพร้อมใช้งาน

ข้อจำกัดของวงกบอลูมิเนียม

• เป็นตัวนำความร้อนจากภายนอกเข้ามาในอาคาร ทำให้เครื่องปรับอากาศต้องทำงานหนัก
• เกิดปฏิกิริยากับกรดด่างบางชนิด รวมทั้งไอชื้นและไอเค็มจากทะเล
• รอยขีดข่วนเล็ก ๆ สามารถสังเกตเห็นได้ง่าย
• รูปลักษณ์และผิวสัมผัสให้ความรู้สึกที่ต่างจากไม้จริง มีลักษณะมันเงาที่สื่อถึงความโมเดิร์น

• บางครั้งอาจพบปัญหาน้ำรั่วซึมบริเวณรอยต่อเมื่อฝนตกหนัก ถ้าทีมติดตั้งทำงานไม่เรียบร้อย

วงกบอลูมิเนียมเหมาะกับงานทั้งภายในและภายนอก โดยเฉพาะบ้านที่ต้องการความทนทานกับการดูแลรักษาง่าย

วงกบเหล็ก แข็งแกร่งสำหรับพื้นที่ใช้งานหนัก

วงกบเหล็กมีความแข็งแรงสูง รับแรงกระแทกได้ดีมาก เหมาะกับพื้นที่ที่มีการใช้งานบ่อยครั้ง เช่น สถานที่สาธารณะ หรือใช้สำหรับตกแต่งบ้านสไตล์ลอฟต์ที่เน้นความดิบเท่ของวัสดุ วงกบเหล็กยังมีราคาไม่สูงและเป็นวัสดุที่ผลิตสำเร็จรูปพร้อมติดตั้ง

ข้อดีของวงกบเหล็ก

• แข็งแรงทนทาน รับแรงกระแทกได้ดี และติดตั้งสะดวก
• มีราคาถูกเมื่อเทียบกับความแข็งแรงที่ได้รับ

• ทนต่อการใช้งานหนัก เหมาะกับพื้นที่สาธารณะ

ข้อจำกัดของวงกบเหล็ก

• ไม่ทนต่อน้ำและความชื้น การสัมผัสน้ำหรือความชื้นอาจทำให้เกิดสนิมได้
• มีน้ำหนักมาก และไม่เหมาะกับงานภายนอก

• รูปลักษณ์ไม่เข้ากับบ้านทุกสไตล์การตกแต่ง

วงกบเหล็กเหมาะสำหรับพื้นที่ที่ต้องการความแข็งแรงสูง เช่น ประตูทางเข้าอาคาร สถานที่สาธารณะ หรือบ้านสไตล์ลอฟต์และอินดัสเทรียล

วงกบ UPVC และ WPC ทางเลือกใหม่ที่ตอบโจทย์การใช้งาน

วงกบ UPVC คือวงกบที่มีคุณสมบัติกันน้ำกับปลวก มีความแข็งแรงทนทาน ใช้งานได้นาน และหาซื้อได้ง่ายในราคาไม่สูง ส่วนวงกบประตู WPC หรือไม้สังเคราะห์นั้น วงกบคือวัสดุที่เกิดจากการผสมไม้กับพลาสติก ทำให้มีรูปลักษณ์คล้ายไม้จริงค่ะ

ข้อดีของวงกบ UPVC และ WPC

• ป้องกันปลวก แมลง มอด และเชื้อราได้
• ดูแลรักษาง่าย ทนต่อความชื้น สารเคมี ความร้อน และแสงแดด ทั้งยังเป็นฉนวนกันความร้อน
• วัสดุ UPVC มีสีในเนื้อ ทำให้รอยขีดข่วนเล็กน้อยไม่เป็นที่สังเกต
• ราคาไม่แพงและหาซื้อได้ง่าย

• เป็นทางแก้ปัญหาวงกบไม้ที่ไม่ทนน้ำและถูกปลวกกิน ใช้ได้ทั้งภายนอกกับภายในอาคาร

ข้อจำกัดของวงกบ UPVC และ WPC

• ถ้าถูกกระแทกแรงจากของแข็งหรือของมีคม อาจแตกหักและเป็นรอยได้ เมื่อเสียหายแล้วซ่อมแซมยาก ต้องเปลี่ยนใหม่ทั้งชุด
• อายุการใช้งานสั้นกว่าเมื่อเทียบกับวงกบไม้เนื้อแข็งและวัสดุอื่น อาจเกิดการบิดเบี้ยวหรือสีเปลี่ยนไปตามกาลเวลา

• ระยะเวลาใช้งานสั้นกว่าวัสดุชนิดอื่น เพราะวัสดุเสื่อมสภาพได้และตัววงกบค่อนข้างบาง

วงกบ UPV และ WPC หรือไม้สังเคราะห์นั้น เหมาะสำหรับประตูภายใน เช่น ห้องน้ำ ห้องครัว ห้องนอน และสามารถใช้กับประตูภายนอกได้ค่ะ

ขั้นตอนการติดตั้งหน้าต่างและ วงกบประตูคืออะไร ?

การติดตั้งวงกบประตูและหน้าต่างเป็นขั้นตอนที่ส่งผลต่อความทนทานในการใช้งาน เพราะวงกบคือโครงสร้างที่ยึดบานประตูหน้าต่างไว้กับผนัง วิธีการติดตั้งมี 2 ระบบหลัก ได้แก่ ระบบเปียกกับระบบแห้ง แต่ละแบบมีข้อดีข้อเสียต่างกัน ขึ้นอยู่กับความต้องการและประเภทของวงกบที่เลือกใช้

• ระบบเปียก (แบบดั้งเดิม) เป็นวิธีดั้งเดิมที่ใช้กับงานก่ออิฐฉาบปูน การติดตั้งจำเป็นต้องมีเสาเอ็นและทับหลังรอบช่องเปิด เพราะหัวใจของการติดตั้งแบบนี้สำหรับวงกบคือการยึดติดกับโครงสร้างผนังให้มั่นคง เหมาะสำหรับวงกบไม้ UPVC และไม้เทียม WPC

• ระบบแห้ง การติดตั้งระบบแห้งนั้นติดตั้งไม่ยุ่งยากและรวดเร็วกว่า ทำให้งานสะอาด ได้มาตรฐาน สามารถติดตั้งได้กับทั้งผนังโครงคร่าวไม้และผนังก่ออิฐฉาบปูน

ขั้นตอนการติดตั้งวงกบประตูแบบละเอียด

การติดตั้งประตูและวงกบมีขั้นตอนหลักที่ต้องใส่ใจ เพราะวงกบคือโครงสร้างที่ยึดบานประตูเข้ากับผนัง ถ้ามีเครื่องมือกับความรู้พื้นฐานก็สามารถทำได้ด้วยตัวเอง แต่ถ้าไม่ถนัด การใช้บริการช่างก็เป็นทางออกที่ช่วยให้งานมีความแม่นยำและเรียบร้อย การติดตั้งมี 7 ขั้นตอนหลัก ดังนี้

1. เตรียมอุปกรณ์ อุปกรณ์ที่จำเป็นต้องมี ได้แก่ สว่าน เลื่อย ฉากวัดมุม กาวร้อน เครื่องวัดระดับน้ำ และตลับเมตร ส่วนอุปกรณ์ที่ต้องจัดหาเพิ่มเติมคือ ประตู ลูกบิดประตู วงกบ และบานพับประตู
2. วัดขนาดพื้นที่ให้แม่นยำ ปัญหาที่เกิดบ่อยครั้งมาจากการวัดขนาดที่ไม่ละเอียด หรือการสื่อสารที่ไม่ตรงกันระหว่างเจ้าของบ้านกับร้านค้า ทำให้สั่งประตูมาแล้วใส่กับวงกบเดิมไม่ได้ ต้องวัดขนาดให้ละเอียดและสื่อสารให้เข้าใจตรงกัน
3. ประกอบวงกบประตู วงกบประตูประกอบด้วยชิ้นส่วน 3 ชิ้น คือด้านข้าง 2 ชิ้น และด้านบน 1 ชิ้น พร้อมสกรูกับตัวปิดมุมวงกบ ใช้กาวร้อนทาบริเวณรอยต่อแล้วประกบเข้าด้วยกันเพื่อประคองวงกบไว้ จากนั้นใช้เหล็กยึดมุมและยิงสกรูซ้ำเพื่อความแข็งแรง
4. ติดตั้งวงกบเข้ากับพื้นที่ นำวงกบที่ประกอบเสร็จมาวางเข้ากับพื้นที่ และยิงสกรูยึดจากฝั่งที่จะติดบานพับก่อน ต้องใช้เครื่องวัดระดับน้ำตรวจเช็คความตรงอยู่เสมอ เพื่อให้ประตูเปิดปิดได้สะดวก
5. วัดระยะติดตั้งบานพับ การวัดระยะติดตั้งบานพับให้ถูกต้องช่วยเรื่องความแข็งแรง ควรติดบานพับ 3-4 ตำแหน่ง เพื่อช่วยรับน้ำหนักของประตู
6. ติดตั้งประตูเข้ากับวงกบ เมื่อติดตั้งวงกบประตูและบานพับเรียบร้อย ก็สามารถยิงสกรูเข้ากับบานพับทั้ง 3 ด้าน ก็จะได้ประตูบานใหม่ที่แข็งแรงทนทาน

7. ติดตั้งลูกบิดประตู ติดตั้งลูกบิดประตูเข้ากับช่องที่เจาะไว้ ประตูส่วนมากมีช่องสำหรับติดตั้งลูกบิดมาให้ แค่นำแกนของลูกบิดใส่เข้าไปในช่อง และใช้สกรูไขยึดลูกบิดทั้งสองด้านเข้าด้วยกัน

สิ่งที่ต้องระวังในการติดตั้ง วงกบคืออะไรบ้าง ?

วงกบประตูคือส่วนที่ถ้าไม่ได้มาตรฐาน อาจเกิดปัญหาอาการโก่งหรือไม่ได้ระนาบ ทำให้ช่างต้องไสบานประตูเพื่อปรับแก้ให้พอดี การทำแบบนี้ส่งผลให้การเปลี่ยนประตูในอนาคตยุ่งยากขึ้น การตรวจเช็คความตรงของวงกบก่อนติดตั้งบานประตูเป็นขั้นตอนที่ช่วยป้องกันปัญหานี้ได้

ซับวงกบที่บิดหรือแอ่นตัวเป็นอีกปัญหาที่พบได้ สาเหตุหลักมาจากความชื้น เพราะวงกบประตูคือส่วนที่ต้องสัมผัสกับสภาพอากาศและผนังโดยตรง ทำให้เนื้อไม้ขยายตัวไม่เท่ากัน รวมถึงการติดตั้งที่ไม่แข็งแรงหรือไม่ได้ระดับ การดูแลซับวงกบอย่างสม่ำเสมอช่วยยืดอายุการใช้งานและลดปัญหาที่เกิดขึ้นได้ค่ะ

เลือกวงกบอย่างไรให้เข้ากับประตูและหน้าต่าง ?

การเลือกวงกบคือขั้นตอนที่ต้องพิจารณามากกว่าแค่เรื่องราคาหรือรูปลักษณ์ภายนอก เพราะต้องดูเรื่องความแข็งแรงทนทาน ความสามารถในการรับน้ำหนักของบานประตู และสภาพแวดล้อมของพื้นที่ติดตั้ง ว่าเป็นพื้นที่ภายนอกหรือภายในบ้าน โดนแดดหรือความชื้นบ่อยแค่ไหน การพิจารณาปัจจัยเหล่านี้ช่วยให้ได้วงกบที่ตรงกับการใช้งานจริงค่ะ

ปัจจัยในการเลือก วงกบคือ

มีปัจจัยหลายอย่างที่ควรนำมาประกอบการตัดสินใจ เพื่อให้ได้วงกบที่เข้ากับบ้านและตอบโจทย์การใช้งานระยะยาว ได้แก่

1. สถานที่ติดตั้ง สำหรับประตูภายนอกที่ต้องเผชิญแสงแดดและฝน ควรเลือกวัสดุที่ทนทานต่อสภาพอากาศ เช่น อะลูมิเนียม UPVC, WPC หรือไม้สักคุณภาพดี ส่วนประตูภายในจะมีวัสดุให้เลือกหลากหลายตามความชอบกับงบที่มี
2. ค่าใช้จ่ายที่ตั้งไว้ วงกบไม้เนื้อแข็งมีราคาสูง ในขณะที่วงกบเหล็กและ UPVC เป็นทางเลือกที่หาซื้อง่ายกว่า ควรพิจารณาอายุการใช้งานและค่าบำรุงรักษาในระยะยาวประกอบด้วย ไม่ใช่แค่ราคาซื้อในตอนแรก
3. สไตล์การตกแต่งบ้าน วงกบไม้เนื้อแข็งเหมาะกับบ้านที่ตกแต่งสไตล์โอเรียนทัล หรือสไตล์มูจิที่เน้นการตกแต่งด้วยไม้เป็นหลัก ส่วนวงกบประตู UPVC เหมาะกับบ้านและอพาร์ตเมนต์ที่ตกแต่งแบบทันสมัย
4. ความต้องการด้านการดูแล ถ้าต้องการวงกบที่ดูแลง่าย ไม่ต้องทาสีหรือบำรุงรักษาบ่อย ควรเลือก UPVC, WPC หรืออะลูมิเนียม ส่วนวงกบไม้ให้ความรู้สึกอบอุ่น แต่ก็ต้องดูแลมากกว่า

5. ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม การผลิต PVC ใช้วัตถุดิบจากทรัพยากรที่ไม่หมุนเวียน ขณะที่ไม้เนื้อแข็งจากแหล่งที่มายั่งยืนสร้างภาระต่อสิ่งแวดล้อมน้อยลง

คำแนะนำการเลือกวงกบสำหรับห้องต่าง ๆ

• ประตูหน้าบ้าน เลือกวัสดุแข็งแรงและทนทานต่อสภาพอากาศ เช่น ไม้สักคุณภาพดี อะลูมิเนียม หรือ UPVC ที่มีโครงสร้างเสริมเหล็กด้านใน
• ประตูห้องนอน เลือกตามสไตล์และความชอบส่วนตัว ไม้จริงให้ความรู้สึกอบอุ่น ส่วน UPVC ดูแลรักษาง่ายกว่า
• ประตูห้องน้ำ ควรใช้วงกบ UPVC หรือ WPC เพราะทนความชื้นได้ดี ป้องกันน้ำและไม่เกิดเชื้อรา หลีกเลี่ยงวงกบไม้ธรรมดากับวงกบเหล็กที่อาจเกิดสนิม | ประตูห้องน้ำควรใช้แบบไหน ?

• ประตูครัว เลือกวัสดุทำความสะอาดง่าย ทนความชื้นและคราบน้ำมัน เช่น อะลูมิเนียมหรือ UPVC

ข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งมาจากการสื่อสารกับช่างหรือร้านค้าที่ไม่ชัดเจน ทำให้ได้วงกบที่ไม่ตรงตามความต้องการหรือขนาดไม่พอดีกับหน้างาน ควรระบุรายละเอียดให้ครบ เช่น ต้องการทำประตูบานเลื่อนหรือบานเปิด จุดที่จะติดตั้ง และความหนาของผนัง

อีกเรื่องที่ควรระวังคือ การเลือกวงกบจากราคาที่ถูกแค่อย่างเดียวโดยไม่ได้ดูเรื่องคุณภาพ ปัญหาที่ตามมากับวงกบไม้ที่ไม่ได้มาตรฐานคือเชื้อราในเนื้อไม้และการโดนปลวกทำลาย ทำให้ต้องเสียเงินซ่อมแซมหรือเปลี่ยนใหม่ก่อนเวลาอันควร เพราะโครงสร้างของวงกบคือส่วนที่ต้องแข็งแรงเพื่อรองรับการใช้งานในระยะยาวค่ะ

สรุป

วงกบคือ องค์ประกอบที่ช่วยเชื่อมบานประตูเข้ากับผนัง และทำหน้าที่รับน้ำหนักกับแรงกระแทกจากการใช้งานประจำวัน วงกบที่แข็งแรงต้องไม่บิดงอหรือหดขยายตัว เพื่อให้ประตูเปิดปิดได้สะดวกและใช้งานได้ทนทาน

การเลือกวงกบประตูคือการตัดสินใจที่ต้องดูจากวัสดุ สถานที่ติดตั้ง และความสะดวกในการดูแลรักษา เพื่อให้เข้ากับการใช้งานของบ้าน วัสดุแต่ละชนิดมีคุณสมบัติที่ต่างกัน ดังนี้

การติดตั้งที่ถูกต้องช่วยยืดอายุการใช้งาน ป้องกันปัญหาต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้น เช่น วงกบผุพัง ปลวกกิน และขนาดไม่พอดี สามารถหลีกเลี่ยงได้ด้วยการเลือกวัสดุที่เข้ากับความต้องการและสื่อสารกับช่างให้ชัดเจน การเลือกใช้วงกบที่แข็งแรงตั้งแต่แรกอาจมีราคาที่สูงกว่า แต่ก็ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมระยะยาว ทำให้ประตูกับหน้าต่างใช้งานได้สะดวกค่ะ