28 จำนวนผู้เข้าชม |
การปูกระเบื้องยางสามารถปูได้เองและเร็วกว่า ไม่ต้องใช้ปูนหรือกาว (แบบคลิกล็อค) แต่กระเบื้องธรรมดาต้องใช้ช่างที่มีความชำนาญ
การตกแต่งหรือรีโนเวทบ้าน การเลือกวัสดุปูพื้นให้เหมาะกับการใช้งานเป็นสิ่งสำคัญ กระเบื้องยางและกระเบื้องธรรมดา คือวัสดุที่หลายคนมักนำมาเปรียบเทียบกัน เพราะแต่ละชนิดมีข้อดีและข้อจำกัดแตกต่างกัน การทำความเข้าใจคุณสมบัติพื้นฐานของวัสดุทั้งสองประเภทนี้ จะช่วยให้สามารถตัดสินใจเลือกสิ่งที่เหมาะสมกับความต้องการและการใช้งาน
เลือกอ่านตามต้องการ
กระเบื้องยางกับกระเบื้องธรรมดา วัสดุปูพื้นที่มีความแตกต่างกันตั้งแต่วัสดุที่ใช้ในการผลิต กระบวนการผลิต จนถึงคุณสมบัติการใช้งาน ความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับวัสดุทั้งสองประเภท จะช่วยให้เราเข้าใจลักษณะทั่วไปก่อนพิจารณาในรายละเอียดต่อไปค่ะ
กระเบื้องยาง ผลิตจากพอลิไวนิลคลอไรด์ (PVC) หรือที่เรียกว่า "ไวนิล" ผสมกับสารเติมแต่งเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นและความทนทาน มีให้เลือกหลายประเภท เช่น แบบแผ่น แบบม้วน หรือแบบคลิกล็อค
ข้อดีของกระเบื้องยาง คือน้ำหนักเบา นุ่มสบายเท้า ดูดซับเสียง กันน้ำได้ดี และติดตั้งง่าย มีลวดลายกับสีสันให้เลือกหลากหลาย สามารถเลียนแบบพื้นผิวของไม้ หิน หรือกระเบื้องเซรามิกได้
กระเบื้องธรรมดา (กระเบื้องเซรามิก) ผลิตจากการนำดินเหนียวไปเผาที่อุณหภูมิสูง ส่งผลให้เนื้อวัสดุมีความแข็งแรงทนทานสูง มีให้เลือกหลายรูปแบบ เช่น แบบเคลือบ ไม่เคลือบ ขัดมัน หรือแกรนิตโต้
ข้อดีของกระเบื้องธรรมดา คือทนทานต่อรอยขีดข่วน ความร้อน และสารเคมีได้ดี มีอายุใช้งานยาวนาน และดูแลรักษาง่าย แต่ความแข็งของเนื้อกระเบื้องก็ส่งผลให้เวลาเดินอาจรู้สึกไม่สบายเท้า และมีโอกาสแตกร้าวได้ถ้ามีของหนักตกกระแทก
การเปรียบเทียบคุณสมบัติของ กระเบื้องยางกับกระเบื้องธรรมดา จะช่วยให้เห็นความแตกต่างได้ชัดเจน ดังนี้ค่ะ
การเป็นฉนวนความร้อน เปรียบเทียบกระเบื้องยางVSกระเบื้องธรรมดาพบว่า กระเบื้องยางจะให้ความรู้สึกอุ่นเมื่อสัมผัส เพราะเก็บความร้อนได้ดีกว่า ส่วนกระเบื้องธรรมดาจะรู้สึกเย็นกว่า
วิธีการติดตั้ง กระเบื้องยางกับกระเบื้องธรรมดา คือสิ่งสำคัญที่ควรพิจารณา เพราะมีผลต่อค่าใช้จ่าย ระยะเวลา ความยุ่งยาก รวมทั้งขั้นตอนดำเนินการที่มีความแตกต่างกันค่ะ
การปูกระเบื้องยางทำได้ง่ายและใช้เวลาน้อยกว่า โดยเฉพาะแบบคลิกล็อคที่สามารถปูได้ด้วยตัวเอง แต่การปูกระเบื้องธรรมดามีความซับซ้อนมากกว่า ต้องใช้ทักษะและประสบการณ์ ส่วนใหญ่ต้องให้ช่างผู้ชำนาญติดตั้ง วิธีปูกระเบื้องทั้งสองประเภท มีดังนี้
กระเบื้องยาง | กระเบื้องธรรมดา |
---|---|
|
|
ข้อแตกต่างของกระเบื้องยางกับกระเบื้องธรรมดาคือ การปูกระเบื้องยางสามารถใช้งานได้ทันทีหลังติดตั้ง และสามารถรื้อถอนเพื่อเปลี่ยนได้ง่ายกว่า (โดยเฉพาะแบบคลิกล็อค) ขณะที่กระเบื้องธรรมดาต้องรอให้ปูนแห้งสนิทก่อนใช้งาน และการรื้อถอนทำได้ยากกว่ามาก ทำให้เกิดฝุ่นกับเศษวัสดุจำนวนมาก
การเปรียบเทียบ กระเบื้องยางกับกระเบื้องธรรมดา ต้องพิจารณาทั้งค่าวัสดุและค่าติดตั้ง เพราะมีช่วงราคาที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับคุณภาพ ดีไซน์ และแบรนด์
กระเบื้องยาง มีราคาเริ่มต้นประมาณ 300-1,500 บาทต่อตารางเมตร ขึ้นอยู่กับประเภทและคุณภาพ แบบคลิกล็อคมีราคาสูงกว่าแบบกาว และแบบ SPC (Stone Plastic Composite) มีราคาสูงกว่าแบบ PVC ทั่วไป ค่าติดตั้งกระเบื้องยางประมาณ 70-150 บาทต่อตารางเมตร หรือไม่มีค่าติดตั้งเลยถ้าทำเอง
กระเบื้องธรรมดา มีราคาที่หลากหลายมากกว่า เริ่มตั้งแต่ 150-3,000 บาทต่อตารางเมตร กระเบื้องเซรามิกทั่วไปมีราคาถูกกว่ากระเบื้องแกรนิตโต้ หรือกระเบื้องที่นำเข้าจากต่างประเทศ ค่าติดตั้งกระเบื้องธรรมดาประมาณ 200-350 บาทต่อตารางเมตร สูงกว่าค่าติดตั้งกระเบื้องยาง และยังมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับปูนกาว ปูนยาแนว และวัสดุอื่น ๆ ประมาณ 100-150 บาทต่อตารางเมตร
ถ้าพิจารณาค่าใช้จ่ายระยะยาว กระเบื้องยางกับกระเบื้องธรรมดาก็มีความแตกต่างกัน กระเบื้องธรรมดามีอายุการใช้งานยาวกว่า แต่กระเบื้องยางราคาเริ่มต้นต่ำกว่าและติดตั้งง่าย ทำให้ค่าแรงติดตั้งถูกลงค่ะ
การเปรียบเทียบ กระเบื้องยางกับกระเบื้องธรรมดา ประเภทต่าง ๆ เช่น กระเบื้องเซรามิกและกระเบื้องแกรนิตโต้ จะช่วยให้เข้าใจทางเลือกของวัสดุปูพื้นได้ครอบคลุมยิ่งขึ้น
กระเบื้องเซรามิก คือกระเบื้องธรรมดาที่ผลิตจากดินเหนียวขึ้นรูปแล้วนำไปเผาที่อุณหภูมิสูง มีการเคลือบผิวด้านบนเพื่อให้ดูน่าสนใจและป้องกันการซึมซับน้ำ กระเบื้องเซรามิกมีราคาไม่แพงมาก แต่มีความทนทานน้อยกว่ากระเบื้องแกรนิตโต้ และมีการดูดซึมน้ำมากกว่า
กระเบื้องแกรนิตโต้หรือพอร์ซเลน คือกระเบื้องที่ผลิตจากดินเหนียวคุณภาพสูงผสมแร่ควอตซ์และเฟลด์สปาร์ เผาที่อุณหภูมิสูงกว่ากระเบื้องเซรามิก ทำให้มีความแข็งแรง หนา และทนทานกว่า มีอัตราการดูดซึมน้ำต่ำมาก (น้อยกว่า 0.5%) ลวดลายคล้ายหินธรรมชาติ แต่มีราคาสูงกว่ากระเบื้องเซรามิกทั่วไป
คุณสมบัติเปรียบเทียบ | กระเบื้องยาง (Rubber Tile) | กระเบื้องเซรามิก (Ceramic Tile) | กระเบื้องแกรนิตโต้ (Granito Tile) |
---|---|---|---|
ความทนทาน | ปานกลาง | สูง | สูงมาก |
ความงาม/ความสมจริง | ปานกลาง - สูง | ปานกลาง | สูงมาก |
ความนุ่มสบาย (ขณะเดิน) | สูง (มีความยืดหยุ่น) | ต่ำ (แข็ง) | ต่ำ (แข็ง) |
การดูดซับเสียง | ดี (ช่วยลดเสียงสะท้อน) | น้อย (มีเสียงดังก้อง) | น้อย (มีเสียงดังก้อง) |
การกันน้ำ/การดูดซึมน้ำ | สูงมาก (กันน้ำได้ดี) | ปานกลาง (ขึ้นอยู่กับการเคลือบผิว) | สูง (ดูดซึมน้ำต่ำมาก <0.5%) |
ความง่ายในการติดตั้ง | ง่าย | ยาก | ยาก |
ราคา (โดยทั่วไป) | ปานกลาง | ต่ำ - ปานกลาง | สูง |
การเลือกระหว่างกระเบื้องยางกับกระเบื้องธรรมดาขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งลักษณะการใช้งาน สภาพแวดล้อม งบที่มี ความชอบส่วนตัว และเหมาะกับพื้นที่แตกต่างกัน ดังนี้
กระเบื้องยางเหมาะสำหรับ | กระเบื้องธรรมดาเหมาะสำหรับ |
|
|
การเลือกกระเบื้องยางกับกระเบื้องธรรมดาต้องพิจารณาจากการใช้งานเป็นหลัก สำหรับพื้นที่พิเศษ เช่น พื้นที่เชิงพาณิชย์ที่มีคนเดินผ่านเยอะ ควรพิจารณากระเบื้องแกรนิตโต้ที่มีความทนทานสูงสุด หรือกระเบื้องยางเกรดพาณิชย์ (Commercial Grade) ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะค่ะ
กระเบื้องยางกับกระเบื้องธรรมดา มีข้อดีและข้อจำกัดที่แตกต่างกัน ควรพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ ก่อนเลือกใช้งาน เช่น งบที่มี สภาพแวดล้อมการใช้งาน ความต้องการด้านการดูแลรักษา และรสนิยมส่วนตัว เปรียบเทียบข้อแตกต่างที่สำคัญเพื่อช่วยประกอบการตัดสินใจ ดังนี้
หัวข้อเปรียบเทียบ | กระเบื้องยาง (Rubber Tiles) | กระเบื้องธรรมดา (Regular Tiles) |
---|---|---|
ข้อดี | นุ่มสบายเท้า ติดตั้งง่าย ดูดซับเสียงได้ดี ราคาเริ่มต้นไม่สูงนัก | มีความทนทานสูง อายุการใช้งานนาน ทนความร้อนและสารเคมีได้ดี |
ข้อจำกัด | มีความทนทานโดยรวม ทนความร้อน/สารเคมีน้อยกว่า | ความสบายเท้าน้อยกว่า การติดตั้งยากกว่า ไม่ค่อยดูดซับเสียง |
เหมาะสำหรับ | พื้นที่ต้องการความสบายเท้า เช่น ห้องนอน และพื้นที่ต้องการความเงียบ | พื้นที่ต้องการความคงทนสูงเช่น ห้องครัว ห้องน้ำ และพื้นที่ที่ใช้งานหนัก |
การติดตั้ง | ง่ายกว่า (ติดตั้งเองได้) | มีขั้นตอนซับซ้อนกว่า (ช่างผู้เชี่ยวชาญ) |
ค่าใช้จ่าย | ค่าติดตั้งถูกกว่า (ดูตารางเปรียบเทียบราคาก่อนหน้า) | ค่าติดตั้งสูงกว่า (ดูตารางเปรียบเทียบราคาก่อนหน้า) |
การบำรุงรักษา | ขึ้นอยู่กับประเภทและคุณภาพ | ทำความสะอาดง่าย (ขึ้นกับพื้นผิว/ยาแนว) |
การให้ความสำคัญกับการเลือกผลิตภัณฑ์คุณภาพดีจากผู้ผลิตหรือผู้จำหน่ายที่น่าเชื่อถือ และการติดตั้งที่ถูกวิธี จะช่วยให้พื้นบ้านของคุณใช้งานได้ดี ทนทาน ตอบโจทย์ความต้องการในระยะยาว และอาจพิจารณาเลือกใช้วัสดุผสมผสานกันในแต่ละพื้นที่เพื่อประโยชน์สูงสุดตามความเหมาะสมค่ะ