กระเบื้องยาง กับ กระเบื้องธรรมดา เปรียบเทียบข้อแตกต่างและการใช้งาน

24 จำนวนผู้เข้าชม  | 

กระเบื้องยางกับกระเบื้องธรรมดา

S.J.Sourcing สรุปให้

  • กระเบื้องยาง ผลิตจากพอลิไวนิลคลอไรด์ (PVC) มีความยืดหยุ่น นุ่ม กันน้ำ ดูดซับเสียง
  • กระเบื้องธรรมดา (เซรามิก) ผลิตจากดินเหนียวผ่านการเผา แข็งแรงทนทาน ทนความร้อน แต่แตกร้าวได้ง่ายกว่า
  • เปรียบเทียบ กระเบื้องยางกับกระเบื้องธรรมดา ด้านราคา กระเบื้องยางมีราคาเริ่มต้น 300-1,500 บาท/ตร.ม. ส่วนกระเบื้องธรรมดา 150-3,000 บาท/ตร.ม.
  • กระเบื้องยางเหมาะกับห้องนอน ห้องเด็ก โฮมออฟฟิศ
  • กระเบื้องธรรมดาเหมาะกับพื้นที่ต้องการความทนทานสูง เช่น ห้องน้ำ ห้องครัว ระเบียง
  • การปูกระเบื้องยางสามารถปูได้เองและเร็วกว่า ไม่ต้องใช้ปูนหรือกาว (แบบคลิกล็อค) แต่กระเบื้องธรรมดาต้องใช้ช่างที่มีความชำนาญ


การตกแต่งหรือรีโนเวทบ้าน การเลือกวัสดุปูพื้นให้เหมาะกับการใช้งานเป็นสิ่งสำคัญ กระเบื้องยางและกระเบื้องธรรมดา คือวัสดุที่หลายคนมักนำมาเปรียบเทียบกัน เพราะแต่ละชนิดมีข้อดีและข้อจำกัดแตกต่างกัน การทำความเข้าใจคุณสมบัติพื้นฐานของวัสดุทั้งสองประเภทนี้ จะช่วยให้สามารถตัดสินใจเลือกสิ่งที่เหมาะสมกับความต้องการและการใช้งาน

เลือกอ่านตามต้องการ

 

กระเบื้องยาง กับ กระเบื้องธรรมดา คืออะไร ?

กระเบื้องยางกับกระเบื้องธรรมดา วัสดุปูพื้นที่มีความแตกต่างกันตั้งแต่วัสดุที่ใช้ในการผลิต กระบวนการผลิต จนถึงคุณสมบัติการใช้งาน ความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับวัสดุทั้งสองประเภท จะช่วยให้เราเข้าใจลักษณะทั่วไปก่อนพิจารณาในรายละเอียดต่อไปค่ะ

กระเบื้องยาง

กระเบื้องยาง ผลิตจากพอลิไวนิลคลอไรด์ (PVC) หรือที่เรียกว่า "ไวนิล" ผสมกับสารเติมแต่งเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นและความทนทาน มีให้เลือกหลายประเภท เช่น แบบแผ่น แบบม้วน หรือแบบคลิกล็อค

ข้อดีของกระเบื้องยาง คือน้ำหนักเบา นุ่มสบายเท้า ดูดซับเสียง กันน้ำได้ดี และติดตั้งง่าย มีลวดลายกับสีสันให้เลือกหลากหลาย สามารถเลียนแบบพื้นผิวของไม้ หิน หรือกระเบื้องเซรามิกได้

กระเบื้องธรรมดา

กระเบื้องธรรมดา (กระเบื้องเซรามิก) ผลิตจากการนำดินเหนียวไปเผาที่อุณหภูมิสูง ส่งผลให้เนื้อวัสดุมีความแข็งแรงทนทานสูง มีให้เลือกหลายรูปแบบ เช่น แบบเคลือบ ไม่เคลือบ ขัดมัน หรือแกรนิตโต้

ข้อดีของกระเบื้องธรรมดา คือทนทานต่อรอยขีดข่วน ความร้อน และสารเคมีได้ดี มีอายุใช้งานยาวนาน และดูแลรักษาง่าย แต่ความแข็งของเนื้อกระเบื้องก็ส่งผลให้เวลาเดินอาจรู้สึกไม่สบายเท้า และมีโอกาสแตกร้าวได้ถ้ามีของหนักตกกระแทก

 

เปรียบเทียบคุณสมบัติ กระเบื้องยาง VS กระเบื้องธรรมดา

การเปรียบเทียบคุณสมบัติของ กระเบื้องยางกับกระเบื้องธรรมดา จะช่วยให้เห็นความแตกต่างได้ชัดเจน ดังนี้ค่ะ

  1. ความทนทาน กระเบื้องธรรมดามีความทนทานสูงกว่า อายุการใช้งานยาวนานถึง 20-50 ปี ขณะที่กระเบื้องยางมีอายุการใช้งานประมาณ 5-15 ปี ขึ้นอยู่กับคุณภาพและการดูแลรักษา
  2. การดูดซับเสียง กระเบื้องยางมีคุณสมบัติดูดซับเสียงได้ดีกว่า ทำให้เสียงเดินกับเสียงสะท้อนลดลง ขณะที่กระเบื้องธรรมดาจะเกิดเสียงก้องเมื่อมีการเดินหรือเคลื่อนไหวบนพื้น
  3. การทนความร้อนและสารเคมี กระเบื้องธรรมดาสามารถทนความร้อนและสารเคมีได้ดีกว่า เหมาะกับพื้นที่ห้องครัว เพราะมีความร้อนจากการประกอบอาหาร ขณะที่กระเบื้องยางอาจเสียรูป เมื่อสัมผัสความร้อนสูงหรือสารเคมีบางชนิด
  4. การกันน้ำ ผิวหน้าของทั้งกระเบื้องยางกับกระเบื้องธรรมดามีคุณสมบัติกันน้ำได้ดี แต่กระเบื้องยางมีข้อได้เปรียบตรงที่ตัววัสดุเป็นเนื้อเดียวกันทั้งแผ่น ทำให้น้ำซึมผ่านได้ยาก ส่วนกระเบื้องธรรมดา ประสิทธิภาพการกันน้ำจะขึ้นอยู่กับการยาแนวรอยต่อระหว่างแผ่น เพื่อป้องกันน้ำซึมลงไปใต้กระเบื้อง
  5. ความนุ่มสบาย กระเบื้องยางมีความยืดหยุ่นและนุ่มกว่า ทำให้รู้สึกสบายเท้าเวลาเดิน ช่วยลดความเมื่อยล้าเมื่อต้องยืนเป็นเวลานาน ในขณะที่กระเบื้องธรรมดามีความแข็งกระด้าง ทำให้เดินไม่สบายเท้า
  6. การทำความสะอาด กระเบื้องยางและกระเบื้องธรรมดาทำได้ง่ายเหมือนกัน แต่กระเบื้องยางมีรอยต่อน้อยกว่า (โดยเฉพาะแบบม้วน) ทำให้ไม่มีร่องสะสมสิ่งสกปรก แต่สำหรับกระเบื้องธรรมดา จะมีร่องยาแนวที่ต้องทำความสะอาดเป็นพิเศษ
  7. การทนทานต่อรอยขีดข่วน กระเบื้องธรรมดาทนต่อรอยขีดข่วนได้ดีกว่า ส่วนกระเบื้องยางเกิดรอยขูดขีดได้ง่ายกว่าโดยเฉพาะเมื่อเลื่อนเฟอร์นิเจอร์หนัก ๆ
  8. การเป็นฉนวนความร้อน เปรียบเทียบกระเบื้องยางVSกระเบื้องธรรมดาพบว่า กระเบื้องยางจะให้ความรู้สึกอุ่นเมื่อสัมผัส เพราะเก็บความร้อนได้ดีกว่า ส่วนกระเบื้องธรรมดาจะรู้สึกเย็นกว่า

 

ขั้นตอนการปู กระเบื้องยาง กับ กระเบื้องธรรมดา

วิธีการติดตั้ง กระเบื้องยางกับกระเบื้องธรรมดา คือสิ่งสำคัญที่ควรพิจารณา เพราะมีผลต่อค่าใช้จ่าย ระยะเวลา ความยุ่งยาก รวมทั้งขั้นตอนดำเนินการที่มีความแตกต่างกันค่ะ

การปูกระเบื้องยางทำได้ง่ายและใช้เวลาน้อยกว่า โดยเฉพาะแบบคลิกล็อคที่สามารถปูได้ด้วยตัวเอง แต่การปูกระเบื้องธรรมดามีความซับซ้อนมากกว่า ต้องใช้ทักษะและประสบการณ์ ส่วนใหญ่ต้องให้ช่างผู้ชำนาญติดตั้ง วิธีปูกระเบื้องทั้งสองประเภท มีดังนี้

กระเบื้องยางกระเบื้องธรรมดา
  1. เตรียมพื้นผิวให้เรียบและสะอาด
  2. วัดพื้นที่และวางแผนการปู
  3. ถ้าติดตั้งแบบคลิกล็อค แค่นำแผ่นกระเบื้องมาประกอบเข้าด้วยกัน
  4. ถ้าติดตั้งแบบกาว ต้องทากาวลงบนพื้นก่อนวางแผ่นกระเบื้อง
  5. ตัดแผ่นกระเบื้องให้พอดีกับพื้นที่ตามต้องการ
  6. ทำความสะอาดก่อนใช้งาน
  1. เตรียมพื้นผิวให้เรียบและแห้งสนิท
  2. วัดและวางแผนการปูให้ถูกต้อง
  3. ผสมปูนกาวสำหรับการปูกระเบื้อง
  4. ทาปูนกาวลงบนพื้นและวางกระเบื้อง
  5. ใช้ตัวเว้นร่อง เพื่อให้ระยะห่างระหว่างกระเบื้องให้เท่ากัน
  6. ต้องทิ้งไว้ให้ปูนกาวแห้ง (ประมาณ 24 ชั่วโมง)
  7. ผสมปูนยาแนว เพื่อยาแนวระหว่างกระเบื้อง
  8. ทำความสะอาดและขัดผิวกระเบื้อง

ข้อแตกต่างของกระเบื้องยางกับกระเบื้องธรรมดาคือ การปูกระเบื้องยางสามารถใช้งานได้ทันทีหลังติดตั้ง และสามารถรื้อถอนเพื่อเปลี่ยนได้ง่ายกว่า (โดยเฉพาะแบบคลิกล็อค) ขณะที่กระเบื้องธรรมดาต้องรอให้ปูนแห้งสนิทก่อนใช้งาน และการรื้อถอนทำได้ยากกว่ามาก ทำให้เกิดฝุ่นกับเศษวัสดุจำนวนมาก

 

เปรียบเทียบด้านราคา กระเบื้องยาง VS กระเบื้องธรรมดา

การเปรียบเทียบ กระเบื้องยางกับกระเบื้องธรรมดา ต้องพิจารณาทั้งค่าวัสดุและค่าติดตั้ง เพราะมีช่วงราคาที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับคุณภาพ ดีไซน์ และแบรนด์

กระเบื้องยาง มีราคาเริ่มต้นประมาณ 300-1,500 บาทต่อตารางเมตร ขึ้นอยู่กับประเภทและคุณภาพ แบบคลิกล็อคมีราคาสูงกว่าแบบกาว และแบบ SPC (Stone Plastic Composite) มีราคาสูงกว่าแบบ PVC ทั่วไป ค่าติดตั้งกระเบื้องยางประมาณ 70-150 บาทต่อตารางเมตร หรือไม่มีค่าติดตั้งเลยถ้าทำเอง

กระเบื้องธรรมดา มีราคาที่หลากหลายมากกว่า เริ่มตั้งแต่ 150-3,000 บาทต่อตารางเมตร กระเบื้องเซรามิกทั่วไปมีราคาถูกกว่ากระเบื้องแกรนิตโต้ หรือกระเบื้องที่นำเข้าจากต่างประเทศ ค่าติดตั้งกระเบื้องธรรมดาประมาณ 200-350 บาทต่อตารางเมตร สูงกว่าค่าติดตั้งกระเบื้องยาง และยังมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับปูนกาว ปูนยาแนว และวัสดุอื่น ๆ ประมาณ 100-150 บาทต่อตารางเมตร

ถ้าพิจารณาค่าใช้จ่ายระยะยาว กระเบื้องยางกับกระเบื้องธรรมดาก็มีความแตกต่างกัน กระเบื้องธรรมดามีอายุการใช้งานยาวกว่า แต่กระเบื้องยางราคาเริ่มต้นต่ำกว่าและติดตั้งง่าย ทำให้ค่าแรงติดตั้งถูกลงค่ะ

 

เปรียบเทียบระหว่าง กระเบื้องยาง กระเบื้องเซรามิก และกระเบื้องแกรนิตโต้

การเปรียบเทียบ กระเบื้องยางกับกระเบื้องธรรมดา ประเภทต่าง ๆ เช่น กระเบื้องเซรามิกและกระเบื้องแกรนิตโต้ จะช่วยให้เข้าใจทางเลือกของวัสดุปูพื้นได้ครอบคลุมยิ่งขึ้น

กระเบื้องเซรามิก คือกระเบื้องธรรมดาที่ผลิตจากดินเหนียวขึ้นรูปแล้วนำไปเผาที่อุณหภูมิสูง มีการเคลือบผิวด้านบนเพื่อให้ดูน่าสนใจและป้องกันการซึมซับน้ำ กระเบื้องเซรามิกมีราคาไม่แพงมาก แต่มีความทนทานน้อยกว่ากระเบื้องแกรนิตโต้ และมีการดูดซึมน้ำมากกว่า

กระเบื้องแกรนิตโต้หรือพอร์ซเลน คือกระเบื้องที่ผลิตจากดินเหนียวคุณภาพสูงผสมแร่ควอตซ์และเฟลด์สปาร์ เผาที่อุณหภูมิสูงกว่ากระเบื้องเซรามิก ทำให้มีความแข็งแรง หนา และทนทานกว่า มีอัตราการดูดซึมน้ำต่ำมาก (น้อยกว่า 0.5%) ลวดลายคล้ายหินธรรมชาติ แต่มีราคาสูงกว่ากระเบื้องเซรามิกทั่วไป

คุณสมบัติเปรียบเทียบกระเบื้องยาง (Rubber Tile)กระเบื้องเซรามิก (Ceramic Tile)กระเบื้องแกรนิตโต้ (Granito Tile)
ความทนทานปานกลางสูงสูงมาก
ความงาม/ความสมจริงปานกลาง - สูงปานกลางสูงมาก
ความนุ่มสบาย (ขณะเดิน)สูง (มีความยืดหยุ่น)ต่ำ (แข็ง)ต่ำ (แข็ง)
การดูดซับเสียงดี (ช่วยลดเสียงสะท้อน)น้อย (มีเสียงดังก้อง)น้อย (มีเสียงดังก้อง)
การกันน้ำ/การดูดซึมน้ำสูงมาก (กันน้ำได้ดี)ปานกลาง (ขึ้นอยู่กับการเคลือบผิว)สูง (ดูดซึมน้ำต่ำมาก <0.5%)
ความง่ายในการติดตั้งง่ายยากยาก
ราคา (โดยทั่วไป)ปานกลางต่ำ - ปานกลางสูง

 

กระเบื้องยาง กับ กระเบื้องธรรมดา ควรเลือกใช้แบบไหน ?

การเลือกระหว่างกระเบื้องยางกับกระเบื้องธรรมดาขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งลักษณะการใช้งาน สภาพแวดล้อม งบที่มี ความชอบส่วนตัว และเหมาะกับพื้นที่แตกต่างกัน ดังนี้

กระเบื้องยางเหมาะสำหรับกระเบื้องธรรมดาเหมาะสำหรับ
  • ห้องนอน ต้องการความนุ่มสบายเท้าและการลดเสียงรบกวน
  • ห้องเด็ก ต้องการพื้นนุ่มเพื่อความปลอดภัยเมื่อเด็กวิ่งเล่นหรือล้ม
  • ห้องนั่งเล่น ต้องการความอบอุ่นและการดูดซับเสียง
  • โฮมออฟฟิศ ต้องเดินหรือยืนเป็นเวลานาน
  • ห้องใต้ดินหรือชั้นล่าง ที่มีปัญหาความชื้น
  • ต้องการความสวยคล้ายไม้หรือหิน
  • สามารถติดตั้งได้ด้วยตัวเอง
  • ห้องเช่า/พื้นที่ที่ปรับเปลี่ยนบ่อย เพราะรื้อถอนได้ง่าย
  • ห้องน้ำ มีความชื้นสูงและต้องการความทนทาน
  • ห้องครัว ต้องทนต่อความร้อนและการหกของอาหารหรือน้ำมัน
  • ระเบียงหรือพื้นที่ภายนอก ต้องทนต่อแสงแดดและสภาพอากาศ
  • พื้นที่มีการขนย้ายของหนัก เช่น โต๊ะ ตู้ เก้าอี้บ่อยๆ
  • บ้านในเขตร้อน ต้องการพื้นผิวเย็น
  • ต้องการความคงทนระยะยาว ไม่ต้องการเปลี่ยนพื้นบ่อย
  • ผู้ชื่นชอบความรู้สึกของวัสดุธรรมชาติ ที่แท้จริง

การเลือกกระเบื้องยางกับกระเบื้องธรรมดาต้องพิจารณาจากการใช้งานเป็นหลัก สำหรับพื้นที่พิเศษ เช่น พื้นที่เชิงพาณิชย์ที่มีคนเดินผ่านเยอะ ควรพิจารณากระเบื้องแกรนิตโต้ที่มีความทนทานสูงสุด หรือกระเบื้องยางเกรดพาณิชย์ (Commercial Grade) ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะค่ะ

 

สรุป

กระเบื้องยางกับกระเบื้องธรรมดา มีข้อดีและข้อจำกัดที่แตกต่างกัน ควรพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ ก่อนเลือกใช้งาน เช่น งบที่มี สภาพแวดล้อมการใช้งาน ความต้องการด้านการดูแลรักษา และรสนิยมส่วนตัว เปรียบเทียบข้อแตกต่างที่สำคัญเพื่อช่วยประกอบการตัดสินใจ ดังนี้

หัวข้อเปรียบเทียบกระเบื้องยาง (Rubber Tiles)กระเบื้องธรรมดา (Regular Tiles)
ข้อดีนุ่มสบายเท้า ติดตั้งง่าย ดูดซับเสียงได้ดี ราคาเริ่มต้นไม่สูงนักมีความทนทานสูง อายุการใช้งานนาน ทนความร้อนและสารเคมีได้ดี
ข้อจำกัดมีความทนทานโดยรวม ทนความร้อน/สารเคมีน้อยกว่าความสบายเท้าน้อยกว่า การติดตั้งยากกว่า ไม่ค่อยดูดซับเสียง
เหมาะสำหรับพื้นที่ต้องการความสบายเท้า เช่น ห้องนอน และพื้นที่ต้องการความเงียบพื้นที่ต้องการความคงทนสูงเช่น ห้องครัว ห้องน้ำ และพื้นที่ที่ใช้งานหนัก
การติดตั้งง่ายกว่า (ติดตั้งเองได้)มีขั้นตอนซับซ้อนกว่า (ช่างผู้เชี่ยวชาญ)
ค่าใช้จ่ายค่าติดตั้งถูกกว่า (ดูตารางเปรียบเทียบราคาก่อนหน้า)ค่าติดตั้งสูงกว่า (ดูตารางเปรียบเทียบราคาก่อนหน้า)
การบำรุงรักษาขึ้นอยู่กับประเภทและคุณภาพทำความสะอาดง่าย (ขึ้นกับพื้นผิว/ยาแนว)

การให้ความสำคัญกับการเลือกผลิตภัณฑ์คุณภาพดีจากผู้ผลิตหรือผู้จำหน่ายที่น่าเชื่อถือ และการติดตั้งที่ถูกวิธี จะช่วยให้พื้นบ้านของคุณใช้งานได้ดี ทนทาน ตอบโจทย์ความต้องการในระยะยาว และอาจพิจารณาเลือกใช้วัสดุผสมผสานกันในแต่ละพื้นที่เพื่อประโยชน์สูงสุดตามความเหมาะสมค่ะ

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้